การจัดระบบดูแลผู้สูงอายุตามแนวคิดการปกครองแบบร่วมมือ : กรณีการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรภาคเอกชน
Main Article Content
บทคัดย่อ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานสำคัญที่มีบทบาทในการดูแลผู้สูงอายุในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและบุคลากร จึงจำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะหน่วยงานภาคเอกชน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีความสามารถและความคล่องตัวในการทำงาน ดังนั้นผู้เขียนจึงสนใจศึกษาการสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรภาคเอกชนในการจัดระบบดูแลผู้สูงอายุ บทความวิชาการนี้จึงมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ เพื่อนำเสนอการจัดระบบดูแลผู้สูงอายุโดยความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรภาคเอกชนตามแนวคิดการปกครองแบบร่วมมือ และเพื่อนำเสนอปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการสร้างความร่วมมือในจัดระบบดูแลผู้สูงอายุ ผลการศึกษา พบว่า การจัดระบบดูแลผู้สูงอายุโดยความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์กรภาคเอกชน ประกอบด้วยขั้นตอน 4 ขั้นตอน คือ การริเริ่มความร่วมมือ การสร้างแรงจูงใจร่วมกัน การทำงานร่วมกันอย่างมีหลักการ และการบริหารความขัดแย้ง โดยมีปัจจัยที่ส่งผล ต่อความสำเร็จในการจัดระบบดูแลผู้สูงอายุ ได้แก่ ภาวะผู้นำแบบอำนวยความสะดวกของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัฒนธรรมในการปฏิบัติงานที่มีความคล้ายคลึงกัน และลักษณะขององค์กรภาคเอกชน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ชลธิชา อัศวนิรันดร, ชฎาธาร โอษธีศ, วัชระ เพชรดิน, วิรัลพัชร มานิตศรศักดิ์, และนลัท จิลลานนท์.(2563). โครงการรูปแบบการจ้างงานผู้สูงอายุในภาคเอกชนของไทย: ความยืดหยุ่น ผลิตภาพ และการคุ้มครอง (รายงานวิจัย). วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชัยวัฒน์ เอี่ยมประภาศ. (2561). ผลสัมฤทธิ์ในการจัดสวัสดิการสังคมให้กับผู้สูงอายุของเทศบาลในภาคตะวันตกของประเทศไทย.วารสารราชนครินทร์, 15(4), 39-51.
ฉัตรทิพย์ ชัยฉกรรจ์. (2560). การจัดการปกครองแบบประสานความร่วมมือ (collaborative governance) : แนวคิด วรรณกรรมคัดสรร และคำสำคัญ. Veridian E-Journal, 10(3),286-298.
ณัชพล บดิการ. (2559). ศักยภาพของเทศบาลตำบลปากแพรก (อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี) ในการดูแลผู้สูงอายุ (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
ทิพย์รัตน์ จิตตเดชาธร. (2559). การบริหารความขัดแย้งในโรงเรียนวัดพระปฐมเจดีย์ (มหินทร ศึกษาคาร) (การค้นคว้าอิสระปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
ประสพโชค ตันสาโรจน์. (2559). บทบาทของเทศบาลเมืองกาญจนบุรีในการดูแลผู้สูงอายุ (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
พันนิภา บุญจริง. (2558).การพัฒนารูปแบบการดําเนินงานชมรมผู้สูงอายุ ตำบลธาตุน้อย อำเภอเขื่องในจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 8(2), 1-8.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.). (2563). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2562. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
ยุวดี รอดจากภัย, และกุลวดี โรจน์ไพศาลกิจ. (2560). การพัฒนาเครือข่ายทางสังคมในการดูแลผู้สูงอายุ (รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์). มหาวิทยาลัยบูรพา.
วสันต์ ศรีสมพงศ์. (2559). การบริหารจัดการแบบร่วมมือในโครงการคลองหมอนนา ตำบลรำแดงอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา (วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต).มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.
วิไลลักษณ์ พรมเสน, และอัจฉริยา ครุธาโรจน์. (2560). บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำปางต่อการส่งเสริมการมีงานทำและการสร้างรายได้แก่ผู้สูงอายุ. วารสารการบริหารท้องถิ่น, 10(2), 70-91.
วริยา จันทร์ขำ, หทัยชนก บัวเจริญ, และชินวุฒิ อาสน์วิเชียร. (2558). รูปแบบการดูแลผู้สูงอายุโดยชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง กรณีศึกษา: องค์การบริหารส่วนตำบลท่างาม อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 7(3), 22-41.
ศิริมา สุวรรณศรี, เอกอนงค์ ศรีสำอาง, สมศักดิ์ เจริญพูล, และพนารัตน์ พรมมา. (2563). รูปแบบการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมในการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงวัยขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองโพธิ์ อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 16(2), 117-135.
สุดารัตน์ สุดสมบูรณ์, วิรัตน์ ธรรมาภรณ์, ทวีศักดิ์ พุฒสุขขี, ปุญญพัฒน์ ไชยเมล์. (2559). บทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการดูแลผู้สูงอายุไทย. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 9(1), 121-127.
อลงกต สารกาล. (2563). ความสำเร็จของการบริหารจัดการปกครองท้องถิ่นบนฐานเครือข่ายความร่วมมือ: บทเรียนจากโครงการการจัดระบบบริการรองรับสังคมผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์. วารสารการจัดการภาครัฐและภาคเอกชน, 27(2), 27-46.
Agranoff, R., & McGuire, M. (2003). Collaborative public management : new strategies for local governments. Washington, D.C.: Georgetown University Press.
Ansell, C., & Gash, A. (2007). Collaborative governance in theory and practice. Journal of Public Administration Research and Theory, 18, 543-571
Beran, D., Perone, S. A., Alcoba, G., Bischoff, A., Bussien, C.-L., Eperon, G… Chappuis ,F. (2016). Partnerships in global health and collaborative governance: Lessons learnt from the Division of Tropical and Humanitarian Medicine at the Geneva University Hospitals. Globalization and Health, 12, 14.
Berends, L., Ritter, A., & Chalmers, J. (2015). Collaborative governance in the reform of Western Australia’s alcohol and other drug sector. Australian Journal of Public Administration, 75(2), 137–148.
Bussu, S., & Bartels, K. P. R. (2014). Facilitative leadership and the challenge of renewing local democracy in Italy. International Journal of Urban and Regional Research, 38(6), 2256-2273.
Emerson, K., Nabatchi,T., & Balogh, S. (2011). An integrative framework for collaborative governance. Journal of Public Administration Research and Theory, 22, 1-29.
Fisher, J., Stutzman, H., Vedoveto, M., Delgado, D., Rivero, R., Dariquebe, W., Contreras, L, S., Souto,T., Harden, A. & Rhee, S. (2020). Collaborative Governance and Conflict Management: Lessons Learned and Good Practices from a Case Study in the Amazon Basin. SOCIETY & NATURAL RESOURCES, 33(4), 538-553.
Purdy, J. M. (2012). A framework for assessing power in collaborative governance processes. Public Administration Review, 72(3), 409–417.