ผลการสรุปบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน โดยใช้แผนผังมโนทัศน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการสรุปบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ หลังเรียนโดยใช้แผนผังมโนทัศน์กับเกณฑ์ กลุ่ม
ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน 45 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบวัดผลการสรุปบทเรียน
วิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันเรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน โดยใช้แผนผังมโนทัศน์ ดำเนินการสอนโดยให้นักศึกษาสรุปบทเรียนโดยใช้แผนผังมโนทัศน์ จำนวน 6 คาบ คาบละ 60 นาที แบบแผนการวิจัยเป็นแบบ One – Short Case Study สถิติที่
ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือการทดสอบค่าสถิติ สถิติ t-test one sample ผลการศึกษาพบว่าผลการสรุปบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน โดยการใช้แผนผังมโนทัศน์สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 คำสำคัญ : แผนผังมโนทัศน์ ผลการสรุปบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน
ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ จำนวน 45 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ แบบวัดผลการสรุปบทเรียน
วิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวันเรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน โดยใช้แผนผังมโนทัศน์ ดำเนินการสอนโดยให้นักศึกษาสรุปบทเรียนโดยใช้แผนผังมโนทัศน์ จำนวน 6 คาบ คาบละ 60 นาที แบบแผนการวิจัยเป็นแบบ One – Short Case Study สถิติที่
ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือการทดสอบค่าสถิติ สถิติ t-test one sample ผลการศึกษาพบว่าผลการสรุปบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน เรื่อง อนุพันธ์ของฟังก์ชัน โดยการใช้แผนผังมโนทัศน์สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 คำสำคัญ : แผนผังมโนทัศน์ ผลการสรุปบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน
Article Details
How to Cite
ชอบเอียด จ. (2015). ผลการสรุปบทเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน โดยใช้แผนผังมโนทัศน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์. Princess of Naradhiwas University Journal of Humanities and Social Sciences, 2(1). Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/pnuhuso/article/view/53507
Section
Research Article