กลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครู ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา

ผู้แต่ง

  • ปฐมพร ล่องเซ่ง นักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยปทุมธานี
  • รองศาสตราจารย์ ดร.ทองหล่อ วงษ์อินทร์ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี

คำสำคัญ:

กลยุทธ์การบริหาร, วิจัยในชั้นเรียน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา 2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจังหวัดยะลา และ3) เพื่อประเมินกลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจังหวัดยะลาที่พัฒนาขึ้น วิธีดำเนินการวิจัย มี 3 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1) ศึกษาสภาพการบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจังหวัดยะลา จำนวน 366 คน ขั้นตอนที่ 2) พัฒนากลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา โดยใช้วิธีการ สัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติโดดเด่น จำนวน 15 คน และขั้นตอนที่ 3) ประเมินกลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา กลุ่มตัวอย่าง เป็นผู้บริหารและครู จำนวน 100 คน โดยใช้วิธีการเลือกสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงผลการวิจัย พบว่าสภาพการบริหารงานวิจัยในชั้นเรียน โดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง การพัฒนากลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา ได้กลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจังหวัดยะลาคือกลยุทธ์ การส่งเสริมความรู้เรื่องการทำวิจัยในชั้นเรียนกลยุทธ์การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการทำวิจัยในชั้นเรียนและกลยุทธ์ การสนับสนุนงบประมาณในการทำาวิจัยในชั้นเรียน การประเมินกลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา ที่พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ในระดับมากที่สุด ข้อเสนอแนะในการวิจัยคือ 1) ผู้บริหารควรนำประเด็นกลยุทธ์ที่สำคัญมาใช้ในการบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครู 2) ผู้บริหารควรนำผลงานการทำวิจัยในชั้นเรียนที่ครูทำแล้วประสบความสำเร็จมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความดีความชอบ ประจำปี 3) ผู้บริหารควรสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์และงบประมาณในการทำวิจัยในชั้นเรียนให้เพียงพอ

เอกสารอ้างอิง

1. กรมวิชาการ, กระทรวงศึกษาธกิาร. (2544). การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพมหานคร : กระทรวงศึกษาธิการ.
2. กรมสามัญศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). การวางแผนกลยุทธ์. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์การศาสนา.
3. กรมสามัญศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ. (2534 ก). การนิเทศภายในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร : หน่วยศึกษานิเทศก์.
4. กองการวิจัยการศึกษา, กรมวิชาการ. (2542). วิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร : กองวิจัยทางการศึกษา.
5. กัญญาบุตร ล้อมสาย. (2552). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนากระบวนการคิดในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานพินธป์ริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวชิาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
6. โกวิท ประวาลพฤกษ์. (2545). แนวทางการทำวิจัยของครูในชั้นเรียนเพื่อรองรับหลักสูตรใหม่. เอกสารอัดสำเนา กรุงเทพมหานคร : สถาบันพฒันาคุณภาพทางวิชาการ.
7. ขัตติยา ด้วงสำราญ. (2552). รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
8. คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สำนักงาน. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร : พริกหวานกราฟฟิค.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-11-30

รูปแบบการอ้างอิง

ล่องเซ่ง ป., & วงษ์อินทร์ ร. ด. (2018). กลยุทธ์การบริหารงานวิจัยในชั้นเรียนของครู ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดยะลา. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 10(2), 224–233. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/ptujournal/article/view/177842