แนวทางการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7
คำสำคัญ:
การบริหารงานวิชาการ, ผู้บริหารสถานศึกษา, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7 2) เพื่อศึกษาแนวทางการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูผู้สอนในสถานศึกษาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7 322 คน และผู้ให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบสอบถามแบบมาตราวัดประมาณค่า 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแบบสัมภาษณ์ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7 ด้านการวางแผนงานเกี่ยวกับงานวิชาการ โดยรวมอยู่ในระดับมาก 2) แนวทางการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7 พบว่า ด้านการวางแผนงานเกี่ยวกับงานวิชาการ ผู้บริหารสถานศึกษามีการกำหนดเป้าหมาย กำหนดโครงสร้างของงานวิชาการอย่างชัดเจน และสอดคล้องกับปรัชญาของสถานศึกษา ด้านการจัดดำเนินงานเกี่ยวกับการเรียนการสอน ผู้บริหารสถานศึกษามีการส่งเสริมให้ครูกำหนดจุดประสงค์การเรียนการสอนอย่างเหมาะสมกับผู้เรียนและสอดคล้องตามหลักสูตร ส่งเสริมให้ครูจัดทำแผนและกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายสอดคล้องกับความถนัดและความสนใจของผู้เรียน และนำแผนการสอนไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านการจัดบริหารเกี่ยวกับการเรียนการสอน ผู้บริหารสถานศึกษามีการประชุม ชี้แจง กำหนดแนวทาง ดำเนินการ และติดตามผลการนิเทศแลกเปลี่ยนเรียนรู้งานวิชาการในสถานศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ด้านการวัดและประเมินผล ผู้บริหารสถานศึกษามีการกำหนดระเบียบ แนวปฏิบัติ สนับสนุนให้ครูพัฒนาและใช้เครื่องมือในการวัดผลและประเมินผล พัฒนาการของผู้เรียนอย่างหลากหลาย จัดทำระบบสารสนเทศ และนำผลการประเมินไปใช้ในการปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอน
เอกสารอ้างอิง
ชนม์ผศุตม์ พัฒพันธ์. (2557). ปัญหาการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา อำเภอตาพระยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยบูรพา.
ทิพยาภรณ์ เตียวเจริญ. (2555). การศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการตามแนวทางการบริหารสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาระยอง เขต 1. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. : มหาวิทยาลัยราชภัฏรําไพพรรณี.
ธีรพล ขยันการนาวี. (2547). การบริหารงานวิชาการอย่างมีคุณภาพของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดสุพรรณบุรี. นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร.
นิตย์ธิดา จันดาสงค์. (2558). ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาในกลุ่มโรงเรียนบ่อทอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ชลบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยบูรพา.
มูนา จารง. (2560). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาตามทัศนะครูผู้สอนในศูนย์เครือข่าย ตลิ่งชัน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต 2. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา.
วิมล เดชะ. (2558). การบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนดีประจําตําบล สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสตูล. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
สจีวรรณ ทรรพวสุ และไสว ศิริทองถาวร. (2555). การพัฒนากระบวนการบริหารงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานด้วยการจัดการคุณภาพ. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7. (2562). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 เขต 7. ปราจีนบุรี : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 7.
สุราค์ ลิ้มเจริญ. (2557). การบริหารงานวิชาการ กับความผูกพันต่อองค์การของครูในโรงเรียนสังกัดเทศบาลเมืองปราจีนบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
หทัย ศิริพิน. (2558). แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโรงเรียนบ้านกระทุ่มล้ม (นครราษฎร์ประสิทธิ์). วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Cronbach, L. J. (1984). Essential of psychology testing. New York: Harper.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว