การเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทาง เศรษฐกิจของประเทศ

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

    งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการรักษาพยาบาลในไทย  ความคาดหวังของชาวต่างชาติต่อบริการรักษาพยาบาลของไทย และกำหนดยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ  การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาเฉพาะผู้ป่วยหรือญาติจากกลุ่มประเทศจีซีซี (GCC)  กลุ่มประเทศเออีซี (AEC)  และประเทศในทวีปเอเชีย  ผู้แทนสถานทูต และผู้แทนผู้ประกอบการสถานพยาบาลเอกชนในประเทศไทย รวม 12 คน

                ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยที่ชาวต่างชาติเลือกมารักษาพยาบาลในประเทศไทย คือ คุณภาพการรักษา  ความเชี่ยวชาญเฉพาะของแพทย์  นัดพบแพทย์เฉพาะทางได้เร็ว  เจ้าหน้าที่ให้บริการด้วยความเป็นมิตร ยืดหยุ่นตามความต้องการของผู้รับบริการแต่ละราย  ค่าใช้จ่ายในการรักษาถูกกว่าประเทศในทวีปยุโรป  สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น  ส่วนความคาดหวังของชาวต่างชาติต่อบริการรักษาพยาบาลของไทยพบว่าต้องการให้รักษาหายจากโรค หรืออาการดีขึ้น ฟื้นตัวเร็ว ได้รักษากับแพทย์เฉพาะทางที่เก่ง  แพทย์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคอย่างละเอียด  เปิดโอกาสให้ซักถาม วินิจฉัยโรคได้เร็ว  ถูกต้อง  ผู้ให้บริการมีความเป็นกันเอง ให้เกียรติ์ ดูแลดี  อธิบายขั้นตอนการรับบริการ ไม่มีปัญหาการสื่อสาร การบริการมีความน่าเชื่อถือ (Reliability)  เครื่องมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ทันสมัย  คิดค่าใช้จ่ายตามจริง ให้รักษาโรคตามใบส่งตัว  มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับผู้ประกอบการไทยคาดหวังให้ภาครัฐประชาสัมพันธ์แบรนด์ประเทศไทยในเรื่อง Medical Hub อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง มีการให้แรงจูงใจแก่สถานพยาบาลที่สนับสนุนการฝึกอบรมความรู้ทางวิชาชีพ  สำหรับยุทธศาสตร์ของประเทศเพื่อการเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพ ภาครัฐควรส่งเสริมให้สร้างชื่อเสียงด้านการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสูงเน้นแบรนด์  High-Quality Medical Care ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล  รวมทั้งส่งเสริมให้มีการทำความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศเพื่อเพิ่มคุณภาพด้านการแพทย์  การพัฒนาก้าวทันเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย  ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership)  อีกทั้งนำจุดเด่นเรื่อง การให้บริการแบบไทย ๆ มาสร้างความแตกต่างจาก Medical Hub ของประเทศอื่น   

                ข้อเสนอแนะ  ภาครัฐควรออก Visa พิเศษสำหรับผู้เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์ลดขั้นตอนการอนุมัติที่ล่าช้า ระยะเวลาที่พำนักควรอนุมัติตามภาวะของโรค  ใช้มาตรการจูงใจทางภาษีกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์สาขาขาดแคลนที่ทำงานในต่างประเทศให้กลับมาทำงานในประเทศไทยอย่างน้อย 3-5 ปีเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแพทย์และบุคลากรเหล่านี้

Abstract

      The aims of this research are:

1. To study the factors that lead foreigners to choose Thailand’s medical services.
2. To study the foreigner’s expectations with Thailand's medical services
3. To find an appropriate strategy for Thailand to become a “Medical Hub”

             Qualitative analysis was tested and data was collected by in-depth interview with 12 interviewees, consisting of both patients and their families from Gulf Cooperation Council countries, Asean Economic countries and Asian countries including Embassy representatives and private hospital executives in Thailand.

             The results of this study revealed that the factors that lead foreigners to choose Thailand’s medical service are: quality of care; expertise of specialized physicians, making appointment with specialized physicians in relatively short time; reasonable price more than European countries, Japan, Korea and Singapore; friendly staffs and flexibility to meet the needs of each client. The foreigners’ expectation with Thailand's medical services demonstrated that they expect to be cured or  recovery fast from the disease, to be treated by  the specialist, to be well informed in details about their disease by their physicians, have the opportunity to ask questions from the specialist, to be given fast and accurate diagnosis. Furthermore, they expect provider to be friendly, respectful, provide quality care, describe process of the services, provide reliable services, have no communication problems, fully equipped with modern medical technology, offer reasonable price and charge from actual cost, treat accordingly to the letter of guarantee. The Thai entrepreneurs expect the Thai government to promote the brand of Thailand Medical Hub regularly and continuously, and motivate hospitals to support professional training to enhance the treatment quality. The strategy for Thailand Medical Hub is that the government should encourage hospital to build a High-Quality Medical Care in order to certify from international standard. Moreover, the government also has to encourage the cooperation with renowned universities overseas to enhance the quality of medical care and develop a new medical technology. The government should support Public Private Partnership, and bring out the distinctive qualities of traditional Thai services to differentiate from other countries’ medical hub.

             Suggestion

             The government should issue special VISA for those who come for medical services, reduce process of approval. The duration of stay should be approved according to the condition of the disease, offer tax incentives for doctors and medical staffs who work abroad to return to work in Thailand at least 3-5 years to diminish the shortage of doctors and medical staffs.