การปรับนโยบายการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทยและผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจไทย

บทคัดย่อ

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ถือได้ว่าเป็นภาคธุรกิจหัวรถจักรที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทย การเจริญเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย โดยเฉพาะภาคธุรกิจที่อยู่อาศัยได้มีอัตราการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดเป็นระยะเวลาอันยาวนาน อันเนื่องมาจากสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจที่สูง และภาวะดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ในระยะเวลาที่ยาวนานที่สุดเท่าที่ผ่านมาของเศรษฐกิจไทย จากเหตุผลข้างต้นทำให้ภาคตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยเกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นถึงมาตรการการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ที่หย่อนลง รวมถึงสัญญาณที่ชัดขึ้นของการกู้เพื่อการลงทุน ซึ่งอาจทำให้เกิดดีมานด์เทียม ขณะที่คุณภาพสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มด้อยลงสวนทางกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกภาคอสังหาริมทรัพย์ มักเป็นต้นตอและนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจการเงินในอดีต ดังนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงปรับนโยบายกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยครั้งสำคัญนี้ เป็นมาตรการเชิงป้องกัน (Preventive Measure) ที่มุ่งสร้างวินัยทางการเงินที่ดี และช่วยลดความเสี่ยงเชิงระบบ รวมถึงเพื่อสนับสนุนให้คนที่ต้องการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยเพื่ออยู่จริงสามารถซื้อได้ในราคาที่เหมาะสม จากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยอย่างมาก อันอาจจะลามถึงการเจริญเติบโตเศรษฐกิจของไทย บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์ เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับนโยบาย Macroprudential สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทยว่ามาถูกแนวทางหรือไม่ รวมถึงข้อเสนอแนะแนวทาง เพื่อลดผลกระทบและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจระยะยาวของประเทศไทย ภายใต้ภาวะปัจจัยภายนอกทางเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่ในปัจจุบัน