การก่อการร้าย : ภัยคุกคามต่อโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ

บทคัดย่อ

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาโครงการวิจัยทางการทหารภายใต้โครงการ ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งเป็นเครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยชั้นสูง            มีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์เพื่อการสื่อสารและรับส่งข้อมูลด้วยมาตรการรักษาปลอดภัยที่ดีขึ้นโดยการส่งในลักษณะแพ็กเก็ต (TCP/IP Packet Switching: Packet) ระหว่างคอมพิวเตอร์กับตัวแสดงที่มิใช่รัฐ (Non-state Actor) อาทิ กลุ่มก่อการร้ายได้แสวงประโยชน์และเกาะอยู่บนคลื่นของการพัฒนา โดยการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาต่อยอดแนวความคิดเพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมต่อภารกิจขององค์กร และพิสูจน์โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญด้านระบบสารสนเทศ (Critical Information Infrastructure: CII) เมื่อถูกโจมตีจะเกิดวิกฤติ ทั้งทางกายภาพและจิตวิทยาส่งผลกระทบต่อระบบการดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่นหรือไม่

               จากการวิเคราะห์พบว่านับตั้งแต่สงครามเย็นกลุ่มก่อการร้ายเลือกใช้ สงครามนอกแบบผ่านการโจมตีในรูปแบบของสงครามกองโจร (Guerrilla Warfare) ที่เน้นการโจมตีจุดเปราะบาง (vulnerabilities) ที่มีการป้องกันด้วยประสิทธิภาพไม่สูงนักหรืออ่อนแอง่ายต่อการโจมตีทั้งทางตรงหรือทางอ้อม ขณะที่ กลุ่มก่อการร้าย ISIS กลุ่มก่อการร้าย Hamas และ กลุ่มก่อการร้าย Al Qaeda ยังคงเกาะคลื่นเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนภารกิจและขยายสนามรบเข้าสู่สมรภูมิบนโลกดิจิทัล ในการผลิตโฆษณาชวนเชื่อทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และการถ่ายทอดสดรายการโทรทัศน์ผ่าน Internet นอกจากนี้ ยังพบว่า โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ (Critical Infrastructure: CI) ตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางไซเบอร์อย่างต่อเนื่องทั่วโลกและแนวโน้มสถานการณ์ยังคงทวีความรุนแรงขึ้น โดยการโจมตีผ่านตัวแสดงที่หลากหลายแต่หากพิจารณาอย่างละเอียดพบว่าการดำเนินงานของระบบควบคุม CI ทั้งหมดจะต้องผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ด้านระบบสารสนเทศ (Critical Information Infrastructure: CII) เหตุนี้จึงเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า CII คือ จุดศูนย์ดุลแห่งสงครามการก่อการร้ายในยุคดิจิทัลที่หากเพียงแค่ถูกระงับ ขัดขวางเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ จะส่งผลให้ระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญทั้งหมดถูกระงับ ขัดขวางตามไปด้วย