แนวทางการเลือกข้อกำหนดตามมาตรฐาน LEED ในการพัฒนาโครงการศูนย์กระจายสินค้าในกรุงเทพและปริมณฑล

บทคัดย่อ

การพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานอาคารเขียวโดยเฉพาะมาตรฐาน LEED มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการลงทุนของผู้พัฒนา เพื่อให้ผู้พัฒนาสามารถวางแผนการพัฒนาโครงการที่สอดคล้องกับมาตรฐาน LEED งานวิจัยนี้จึงมุ่งศึกษาลักษณะในการเลือกข้อกำหนดตามมาตรฐาน LEED และปัจจัยในการเลือกข้อกำหนดของผู้พัฒนาโครงการ ผ่านการเก็บข้อมูลทุติยภูมิด้านการเลือกข้อกำหนดของศูนย์กระจายสินค้าในประเทศไทย และสัมภาษณ์ผู้พัฒนาโครงการกรณีศึกษาตัวแทนสำหรับแต่ละระดับคะแนน ได้แก่ Certified Silver และ Gold

ผลการศึกษาพบว่า 1) ศูนย์กระจายสินค้าที่ได้รับมาตรฐาน LEED แล้ว มีการเลือกทำข้อกำหนดในหมวด Location and Transportation ได้แก่ Sensitive Land Protection และ Electric Vehicles หมวด Sustainable Sites มีการเลือกทำข้อกำหนด Heat Island Reduction และสำหรับหมวด Water Efficiency และ Energy and Atmosphere มีการเลือกทำข้อกำหนด Indoor Water Use Reduction และ Optimize Energy Performance ตามลำดับ หมวด Materials and Resources มีการเลือกทำข้อกำหนด Sourcing of Raw Materials และ Construction and Demolition Waste Management และสุดท้ายในหมวด Indoor Environmental Quality มีการเลือกทำข้อกำหนด Low-Emitting Materials และ Construction Indoor Air Quality Management Plan 2) ปัจจัยในการเลือกข้อกำหนดเพื่อยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นสำหรับกลุ่มข้อกำหนดระดับ Silver คือ สุขภาวะและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นภายใน หรือ ผลลัพธ์กับพนักงานและผู้ใช้อาคาร และสำหรับกลุ่มข้อกำหนดระดับ Gold คือ ลดมลภาวะและการร้องเรียนจากพื้นที่โดยรอบ 3) ข้อดีของข้อกำหนดมาตรฐาน LEED สำหรับผู้พัฒนา ได้แก่ ภาพลักษณ์ของโครงการ ตอบสนองนโยบายบริษัท ประหยัดทรัพยากร มีความต้องการใช้พลังงานสะอาด มีการลงทุนอยู่แล้ว ส่วนข้อจำกัดของข้อกำหนดมาตรฐาน LEED สำหรับผู้พัฒนา ได้แก่ ผลกระทบด้านต้นทุน ผลกระทบด้านระยะเวลาทั้งจากการก่อสร้างและจัดซื้อ รวมถึง ข้อจำกัดด้านผังเมือง โครงสร้างพื้นฐานและกฏหมาย

งานวิจัยฉบับนี้แสดงให้เห็นลักษณะการเลือกข้อกำหนด และปัจจัยในการเลือกหรือไม่เลือกทำข้อกำหนดในมุมมองของผู้พัฒนา ซึ่งผลการศึกษานี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษาด้านอาคารเขียว และผู้พัฒนาที่สามารถนำแนวทางและปัจจัยในการเลือกข้อกำหนดไปปรับใช้กับโครงการที่ต้องการขอมาตรฐาน LEED ที่มีความต้องการสูงขึ้นในปัจจุบัน