การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพบูรณาการแนวทางทรงงาน ตามเบื้องพระยุคลบาท (SAPAE) ร่วมกับสะเต็มศึกษา เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 (The Development of Learning Activites in Occupation Courses by Integrated Kings’ working Principles and STEM Education to Encourage Making Creative Invention Project Abilities of The 5 Grade Students)

ผู้แต่ง

  • จุฑาภรณ์ ฟักอินทร์ (Juthaporn Fakain) +6625586855
  • จิตณรงค์ เอี่ยมสำอางค์ (Chitnarong Iamsamang)

คำสำคัญ:

กิจกรรมการเรียนรู้, แนวทางทรงงานตามเบื้องพระยุคลบาท (SAPAE), สะเต็มศึกษา, โครงงานสิ่งประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพบูรณาการแนวทางทรงงานตามเบื้องพระยุคลบาท (SAPAE) ร่วมกับสะเต็มศึกษา 2) เพื่อพัฒนาความสามารถในการทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือนักเรียน โรงเรียนวัดสุวรรณนาคี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือ ที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย กิจกรรมการเรียนรู้และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่พัฒนาขึ้นแบบประเมินโครงงานสิ่งประดิษฐ์สร้างสรรค์ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าทีและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีชื่อว่า กิจกรรมการเรียนรู้ ICPAEC ประกอบ ด้วย 6 ขั้นตอนได้แก่ ขั้นที่ 1 ขั้นกำหนดปัญหาขั้นที่ 2 ขั้นรวบรวมข้อมูล ขั้นที่ 3 ขั้นวางแผนและออกแบบขั้นที่ 4 ขั้นลงมือปฏิบัติและนำเสนอชิ้นงาน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผลและปรับปรุง และขั้นที่ 6 ขั้นสรุปผล มีค่าความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด (gif.latex?\bar{x} = 4.80, S.D. = 0.35) และมีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.55/87.00 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2) ผลการศึกษาประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความสามารถในการทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ หลังการจัดการเรียนรู้สูงกว่าเกณฑ์ที่ร้อยละ 60 อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) นักเรียน มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับมากที่สุด (gif.latex?\bar{x} = 4.70, S.D. = 0.41)

เผยแพร่แล้ว

2021-07-02

ฉบับ

บท

บทความวิจัย