นวัตกรรมการบริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยความไว้วางใจ เชิงสัมพันธ์
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์สภาพการบริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยความไว้วางใจเชิงสัมพันธ์ 2) สร้างนวัตกรรมการบริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยความไว้วางใจเชิงสัมพันธ์ และ 3) เพื่อประเมินและรับรองนวัตกรรมการบริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยความไว้วางใจเชิงสัมพันธ์ วิธีวิจัยใช้การวิจัยแบบผสานวิธี ประกอบด้วย การวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 405 คน ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา เลือกกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในส่วนของการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการศึกษา จำนวน 27 คน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาแบบอุปนัย ผลการวิจัย พบว่า 1) ด้านแนวคิดการบริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยความไว้วางใจเชิงสัมพันธ์ ประกอบด้วย แนวคิดเกี่ยวกับการบริหารสถานศึกษา แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการบริหารแบบมีส่วนร่วม แนวคิดความไว้วางใจเชิงสัมพันธ์ และแนวคิดการระดมสมองและสร้างสรรค์ความคิดเพื่อพัฒนานวัตกรรมด้วย SCAMPER Technique 2) ด้านการสร้างนวัตกรรม พบว่า โมเดลการบริหารสถานศึกษาที่บูรณาการผ่านสองโมเดลหลัก คือ UNITY Model และ SMART Model ที่ใช้วงจรการพัฒนาที่เน้นการวางแผน ปฏิบัติ ตรวจสอบ และปรับปรุงอย่างเป็นระบบ โดย UNITY Model ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 5 ประการ ได้แก่ สามัคคีเป็นหนึ่ง เครือข่าย ความคิดริเริ่ม การทำงานเป็นทีม และผลลัพธ์ ส่วน SMART Model เน้นการพัฒนาผ่านเทคโนโลยี ความพอเพียง การวิจัย ศีลธรรม และความสำเร็จ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่ครอบคลุมและพัฒนาสถานศึกษาในทุกด้าน และ 3) ด้านการประเมินและรับรองนวัตกรรมการบริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาแบบมีส่วนร่วมด้วยความไว้วางใจเชิงสัมพันธ์ พบว่า ผลการประเมินและรับรองด้านความเหมาะสมและความเป็นไปได้ที่ ร้อยละ 96
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิจัยราชภัฏพระนครเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Bryk and Schneider. (2002). Identify important determinants of RELATIONAL TRUST. Respect, personal regard for others competence, and integrity.
Bureau of Upper Secondary Education Administration. (2017). Driving Thai Secondary Education 4.0 for 21st Century Employment. Office of the Basic Education Commission, Ministry of Education: Cooperative Printing of Agricultural Cooperatives of Thailand. (In Thai)
Rattanadechgumjay, C. (2021). Report on School Management in the Area of Participatory Management Innovation: The Step BL Model to Enhance School Efficiency. Nakhon Pathom: Nakhon Pathom Provincial Office of Education. (In Thai)
Cohen and Uphoff. (1980). “Participation’s Place in Rural Development : Seeking Clarity Through Specifity.” Word Development.
Crawford, M., & Herrmann, A. (2018). Distributed leadership in schools: A practical guide for learning and improvement. Taylor & Francis.
David C. McClelland. (1961). The Achieving Society. (New York : Van Nostrand)
Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., Anderson, R. E., & Tatham, R. L. (2010). Multivariate Data Analysis (7th ed.). Prentice Hall.
Harris, A., & Muijs, D. (Eds.). (2018). Improving schools through collaborative enquiry. Routledge.
Khunkaeo, T. (2023). Factors Affecting Personnel Administration of Schools under The Secondary Educational Service Area Office Nakhon Sawan. Journal of MCU Social Science Review, 12(3), 83-95. (In Thai)
Ministry of Education. (2003). National Education Act of 1999 and Amendments (Second Edition) of 2002. Bangkok: Kurusapa Business Organization Printing Press. (In Thai)
Nakhon Pathom Provincial Education Office. (2022). Report on the Monitoring and Evaluation of the Educational Management System to Support the Inspectorate for Fiscal Year 2022. Nakhon Pathom: Nakhon Pathom Provincial Education Office. (In Thai)
National Health Commission Office. (2022). The Next Normal: Life in the Next Phase and Adaptation After the COVID-19 Situation. Bangkok: Pim Dee Publishing Co., Ltd. (In Thai)
National Innovation Agency. (2019). Innovation Management for Organizations. Bangkok: Trust Corporation Management Institute. (In Thai)
Ozyaprak, M. (2016). The effectiveness of SCAMPER technique on creative thinking skills. Journal for the Education of Gifted young scientists, 4(1), 31-40.
Chantrat, P. and Uthairat, W. (2019). A Participatory Management Model to Support the Development of an Integrated Curriculum for Promoting Good Citizenship in Secondary Schools under the Office of the Basic Education Commission. Journal of Education Studies, 47(1), 280-294. (In Thai)
Manyat, P., Teeravanitrakul, S. & Rakngam, C. (2020). Model of secondary school administration to world class standard schools under the office of secondary education service re, region 7. Burapha University, Chonburi. (In Thai)
Smylie, M. A., & Hart, A. W. (Eds.). (2018). Building collaborative capacities in learning communities: Tools for practical school improvement. Teachers College Press.
Chamchoi. S. (2018). Educational Administration in the Digital Era. Bangkok: Chulalongkorn University Press. (In Thai)
The National Economic and Social Development. (2022). Quality Education and Sustainable Development Goals Thailand SDG Review. Retrieved from https://www.nesdc.go.th/nesdb_en/more_news.php?cid=16 [2024, 25 Jun.] (In Thai)
Rakthai, T. and Aujirapongpan, S. (2017). Open Innovation System: The Success of Innovation Developing in Universities. Songklanakarin Journal of Management Sciences, 34(2), 135-160. (In Thai)
