การพัฒนาระบบสมุดรับ-ส่งงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพทั่วไปของการรับส่งเอกสารงานสารบรรณ (2) พัฒนาการรับ-ส่งเอกสารงานสารบรรณของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครให้มีประสิทธิภาพ (3) ประเมินความพึงพอใจระบบสมุดรับ-ส่งงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ระยะเวลาดำเนินการเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2566 – กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ประชากรคือบุคลากรสถาบันวิจัยและพัฒนา เจ้าหน้าที่ และผู้บริหาร จำนวน 16 คน ใช้เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก และแบบประเมินความพึงพอใจ สรุปผลได้ดังนี้
- สภาพทั่วไปของการรับส่งเอกสารงานสารบรรณ ได้ข้อมูลจากสมุดรับส่ง ซึ่งมีการใช้งานตามหัวข้อ ได้แก่ เลขทะเบียนรับ ที่ ลงวันที่ จาก ถึง เรื่อง การปฏิบัติ หมายเหตุ ซึ่งเมื่อออกแบบแล้วจะคงเหลือการกรอกข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ เลขที่หนังสือ, วันที่หนังสือ, จาก(ผู้ส่ง), ถึง(ผู้รับ), ชื่อเรื่อง, ผู้รับเอกสาร (ผู้ดำเนินการ)
ส่วนเลขทะเบียนรับ เมื่อบันทึกข้อมูลแล้วระบบจะดำเนินการโดยอัตโนมัติ และการปฏิบัติ ผู้วิจัยได้ออกแบบเมื่อได้มีการแจ้งเตือนผ่านระบบ Line Notify เรียบร้อยแล้ว - พัฒนาระบบการรับ-ส่งเอกสารงานสารบรรณของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครเพื่อทดแทนการรับส่งแบบเดิม โดยใช้เครื่องมือในการพัฒนาดังนี้ Google Form (รับข้อมูล), Google Sheet (ฐานข้อมูล), Apps Script (คำสั่งดำเนินการ), Looker Studio (การแสดงผลและรายงานผล), Line (ระบบแจ้งเตือน Line Notify) โดยระบบที่พัฒนาขึ้นมาทดแทนรูปแบบการรับ-ส่งเอกสารเดิมสามารถดำเนินการบันทึกและแจ้งเตือนผ่านระบบ Line Notify ได้อย่างมีประสิทธิผล
- ประเมินความพึงพอใจต่อประสิทธิภาพของระบบสมุดรับ-ส่งงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ของสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร จากกลุ่มประชากรจำนวน 16 คน พบว่าภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่า เท่ากับ 4.60 และมีความพึงพอใจมากที่สุดในทุกรายการ ซึ่งจำแนกตามด้านดังนี้ ด้านตรงตามความต้องการ (Function Requirement) มีค่า เท่ากับ 4.69 รองลงมาคือด้านความง่ายต่อการใช้งาน (Usability) มีค่า เท่ากับ 4.65 ด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Security) มีค่า เท่ากับ 4.60 ด้านสามารถทำงานได้ตามหน้าที่ (Function) มีค่า เท่ากับ 4.59 และด้านประสิทธิภาพ (Performance) มีค่า เท่ากับ 4.42 ตามลำดับ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิจัยราชภัฏพระนครเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Google. (2024). Google Apps Script. Retrieved from https://script.google.com/
Google. (2024). Google Forms. Retrieved from https://www.google.com/forms/about/
Google. (2024). Google Sheets. Retrieved from https://www.google.com/sheets/about/
Google. (2024). Looker Studio. Retrieved from https://lookerstudio.google.com
Juan, A. (2024). Why do Thais prefer Line over WhatsApp, Telegram, and Signal? Thailand Business News. Retrieved from https://www.thailand-business-news.com/tech/126814-why- do-thais-prefer-line-over-whatsapp-telegram-and-signal
Line. (2024). Line. Retrieved from https://line.me/th/
Office of the Prime Minister. (2005). The regulations of the Office of the Prime Minister regarding official correspondence (2nd ed.). (In Thai)
Sakchai, U. (2022). Concepts and Management of Information Systems (1st ed.). Thammasat University Press. (In Thai)
Sutthiphong, M. (2023). Development of a problem-reporting application via LINE: A case study of True Corporation. Retrieved from https://conf.iven3.net/fullpaper/GP009.pdf (Accessed August 2024).
Thanom, K. (2022). Development of an automatic event and appointment notification system via LINE application. Mahidol R2R e-Journal, 9(2), May–August.