การติดตามความเป็นอิสระด้านการคลังท้องถิ่นของประเทศอาเซียนผ่านการบริหารภาษีป้ายและการโฆษณา ประเทศฟิลิปปินส์และประเทศไทย--ใครก้าวหน้ากว่ากัน?

Main Article Content

ดร. ภาวิณี ช่วยประคอง

บทคัดย่อ

นโยบายการกระจายอำนาจเป็นกลยุทธที่สำคัญสำหรับการปฏิรูประบบราชการ ประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลายได้นำเอาแนวทางการปฏิรูปนี้มาประยุกต์ใช้ โดยมุ่งหวังว่าจะสามารถนำทำให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการและปกครองตนเองได้ตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างยั่งยืน ทำให้การกระจายอำนาจเป็นสิ่งที่ต้องกระทำทั้งมิติการเมือง การบริหาร และการคลัง ทั้งนี้ในมิติทางการคลังนั้น การผลักดันให้ อปท. มีอิสระและสามารถกำหนดโครงสร้างภาษีของตนเองได้เป็นเงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ อปท. สามารออกแบบระบบบริหารจัดเก็บรายได้ที่สะท้อนและเหมาะสมกับวิถีชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนได้ อย่างไรก็ดี การศึกษาเกี่ยวกับการอิสระทางการคลังในการจัดเก็บรายได้ของ อปท. เปรียบเทียบกันระหว่างประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนมีอยู่อย่างมีจำกัด บทความนี้จึงเลือกตัวอย่างประเทศที่เป็นตัวแทนของภูมิภาคนี้และใช้ภาษีป้ายและการโฆษณาซึ่งเป็นภาษีที่มีแหล่งกำเนิดในท้องถิ่นเอง อีกทั้ง อปท. จัดเก็บกันมาอย่างยาวนานแล้วเป็นกรณีศึกษา โดยตั้งคำถามวิจัยว่า (1) “การบริหารจัดเก็บภาษีป้ายและการโฆษณาโดย อปท. ของประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศไทยมีความเหมือนและแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร?” และ (2)“ประเทศฟิลิปปินส์ หรือประเทศไทยสามารถเรียนรู้จากความเหมือนหรือความแตกต่างกันในการบริหารจัดเก็บภาษีป้าย เพื่อนำมาพัฒนาระบบริหารจัดเก็บของประเทศตนเองได้อย่างไรบ้าง?” ซึ่งจากการจัดเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลตามแบบการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่า แม้ว่าประเทศฟิลิปปินส์มีความก้าวหน้าทางการคลังเป็นอย่างมาก กล่าวคือ อปท. ในประเทศฟิลิปปินส์สามารถกำหนดอัตราภาษี ฐานภาษี และมาตรการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีป้ายและการโฆษณาได้เอง ทำให้ฐานภาษีป้ายและอัตราภาษีป้ายของ อปท. ในประเทศฟิลิปปินส์มีความหลากหลาย ซึ่งสามารถช่วยควบคุมมลพิษที่เกิดจากป้ายและการโฆษณาที่อาจมีมากเกินไปได้ รวมทั้งสามารถกำหนดอัตราภาษีที่แตกต่างกันตามระหว่างป้ายที่คนเห็นจำนวนมากในเขตเมืองและป้ายที่มีคนเห็นจำนวนน้อยในเขตชนบท ในขณะที่ อปท. ในประเทศไทยยังมีอิสระทางการคลังจำกัดมาก รัฐบาลกลางเป็นมีอำนาจผู้กำหนดและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภาษีป้ายและโฆษณา แล้วมอบหมายให้ อปท. ปฏิบัติตาม ดังนั้น เพื่อพัฒนาอิสระทางการคลังในการจัดเก็บภาษีป้ายและการโฆษณา ผู้กำหนดนโยบายกระจายอำนาจของประเทศไทยอาจพิจารณาโครงสร้างภาษีป้ายและการโฆษณาของประเทศฟิลิปปินส์มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้ระบบการบริหารจัดเก็บภาษีสามารถตอบสะท้อนสภาพทางเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนได้อย่างแท้จริง อันจะช่วยผลักดันให้นโยบายการกระจายอำนาจในมิติทางการคลังก้าวหน้าไปได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญประการหนึ่งของนโยบายการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่น

Article Details

บท
บทความวิจัย