การพัฒนารูปแบบการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรมของ มหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย

Main Article Content

ธนัสถา โรจนตระกูล

บทคัดย่อ

งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย และเพื่อพัฒนารูปแบบการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย รวมถึงเพื่อทดสอบความสอดคล้องของรูปแบบการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทยกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ผู้วิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงผสานวิธี (Mixed approach research)  ในการดำเนินการเพื่อให้ได้คำตอบสำหรับวัตถุประสงค์ของการวิจัย ซึ่งประกอบด้วยระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research approach) และระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research approach) โดยผู้ให้ข้อมูล (Informants) ของการวิจัยเชิงคุณภาพประกอบด้วย ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยราชภัฏจำนวน  7 คนและผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 คน ผู้วิจัยทำการเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth interview) และวิเคราะห์ผลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) สำหรับประชากรของการวิจัยเชิงปริมาณ  (Quantitative research approach)  ประกอบด้วย ผู้บริหารและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศจำนวน 40 แห่ง ซึ่งไม่ทราบจำนวนประชากรที่แน่นอน ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 160 คน การวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ทำโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการวิเคราะห์ทางสถิติ SPSS และ LISREL สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ผลประกอบด้วยสถิติเชิงพรรณนาได้แก่ ค่าเฉลี่ย (mean) และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และสถิติอ้างอิงได้แก่ สถิติการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (Confirmatory factor analysis :CFA)


ผลการวิเคราะห์พบว่า รูปแบบองค์ประกอบการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทยมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนดได้แก่ x2 ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ x2 /df =0.58  GFI=1.00 AGFI=1.00 RMESA=0.000 น้ำหนักองค์ประกอบขององค์ประกอบแต่ละองค์ประกอบเรียงตามลำดับคือ  การสร้างสรรค์นวัตกรรม (0.93) การสร้างเครือข่าย (0.91) การจัดการองค์ความรู้ (0.87) การสื่อสาร (0.86) การมุ่งเน้นการเรียนรู้ (0.85) ผู้นำเชิงนวัตกรรม (0.82) และ วัฒนธรรมองค์การ (0.82) ตามลำดับ

Article Details

How to Cite
โรจนตระกูล ธ. (2020). การพัฒนารูปแบบการเป็นองค์การแห่งนวัตกรรมของ มหาวิทยาลัยราชภัฏในประเทศไทย. วารสารวิชาการวิทยาลัยบริหารศาสตร์, 3(2), 1–17. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/SASAJ/article/view/240743
บท
บทความวิจัย

References

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม. (2560). ข้อมูลผู้สำเร็จการศึกษาและประมาณการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ปี พ.ศ. 2560. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563, จาก

https://www.doe.go.th/prd/assets/upload/files/lmia_th/e8f4bcc3fa1c6a7c416425d91033eee6.pdf

กระทรวงอุตสาหกรรม. (2560). ไทยแลนด์ 4.0 คืออะไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563, จาก http://www.industry.go.th/center_mng/index.php/2016-04-24-18-07-42/2016-04-24-18-09-38/2016-04-24-18-10-07/item/10236-4-0

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ. (2549). การจัดการนวัตกรรมสำหรับผู้บริหาร. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ.

สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี. (2560). นโยบายThailand 4.0 คืออะไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563, จาก https://spm.thaigov.go.th/CRTPRS/spm-sp-layout6.asp?i=41111%2E14512702112113121111311

ASEAN.(2014). Thinking Globally, Prospering Regionally — ASEAN Economic Community 2015. Jakarta: ASEAN Secretariat.

Diamantopoulos, A. & Siguaw, J. A. (2000). Introduction to LISREL: A guide for the uninitiated. London: Sage Publications Inc,.

Fields, A. (2009). Discovering statistics using SPSS. 3rd edition. Los Angeles: Sage.

George, D. and Mallery, P. (2010). SPSS for Windows Step by Step: A Simple Guide and Reference 17.0 Update. 10th Edition. Boston: Pearson.

Gravetter, F. and Wallnau, L. (2014).Essentials of statistics for the behavioral sciences. 8th Edition. Belmont: Wadsworth.

Hooper, D., Coughlan, J., & Mullen, M. R. (2008). Structural Equation Modelling: Guidelines for Determining Model Fit. The Electronic Journal of Business Research Methods, 6, 54-55.

Jackson, D. L. (2003). Revisiting sample size and number of parameter estimates: Some support for the N: q hypothesis. Structural Equation Modeling,10 (1): 128-141.

Jöreskog, K. G. & Sörbom, D. (1993). LISREL 8: User’s Reference Guide. Chicago: Scientific Software International, Inc,.

Kelloway, E. K. (1998). Using LISREL for Structural Equation Modeling; A Researcher’s Guide. CA: Sage Publications Inc,.

Víctor, J. García-Morales, Fernando Matías-Reche, & Antonio J. Verd´u-Jover. (2011) Influence of Internal Communication on Technological Proactivity, Organizational Learning, and Organizational Innovation in the Pharmaceutical Sector. Journal of Communication 61,150–177.