รูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของชุมชนบ้านร่องหวาย ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย

Main Article Content

ชาญชัย ฤทธิร่วม
อารีย์ บินประทาน

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของชุมชนบ้านร่องหวาย ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย โดย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และการสนทนากลุ่ม ผู้ให้ข้อมูลสำคัญประกอบด้วย ประชากรชาติพันธุ์อีสานที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านร่องหวาย ผู้แทนกลุ่มองค์กรชุมชน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐเอกชน ผู้แทนผู้นำท้องถิ่นท้อง ผู้แทนสถาบันการศึกษา  ผู้แทนผู้นำศาสนา และผู้แทนภาคประชาชน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา และการบรรยายประกอบภาพและตาราง


ผลการศึกษาพบว่า ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของชุมชนบ้านร่องหวาย ตำบลดงมหาวัน อำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย ผ่านกระบวนการ 5 ขั้นตอน ได้แก่ การเตรียมวิทยากรกระบวนการ การจัดเวทีชุมชน การประเมินศักยภาพชุมชน การกำหนดวิสัยทัศน์ และการกำหนดแผนงาน ทำให้ได้รูปแบบการพัฒนาที่ประกอบไปด้วย 1) การใช้ระบบเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเองและขยายผลกำไรสู่ชุมชนในรูปแบบทุนความรู้ ทุนชุมชน 2) การผสมผสานความเชื่อดั้งเดิมกับความเป็นสมัยใหม่ในรูปแบบการส่งผ่านจากจากปราชญ์ชุมชนสู่ผู้สืบทอดรุ่นใหม่ 3) การรักษาสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมกับวิถีชีวิตของคนในชุมชนผ่านรูปแบบของการกำหนดระเบียบ ข้อตกลงร่วมกันในการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อมโดยคงวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ. (2564). Cultural Ecology. สืบค้นจาก http://www.sac.or.th/ databases/anthropology-concepts/glossary/28

นฤมล อนุสนธิ์พัฒน์ และคณะ (2564). การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนพึ่งพาตนเองบนพื้นฐานชุมชนาธิปไตย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(12), 204–217.

ยลดา พงค์สุภา. (2561). รูปแบบการจัดการสิ่งแวดล้อมโดยผู้สูงอายุในชุมชนชนบท. วารสารสาธารณสุขมหาวิทยาลัยบูรพา, 13(1), 81–87.

อภิศักดิ์ โสมอินทร์. (2534). โลกทัศน์อีสาน. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์.

อัฐพล อินต๊ะเสนา. (2560). เรื่องเล่ากับการสร้างพื้นที่ผ่านเครือข่ายทางสังคมของคนไทยอีสานพลัดถิ่น. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 12(34), 67-82.