การยอมรับทางสังคมต่อผู้พ้นโทษหญิงกับวิสาหกิจเพื่อสังคม: กรณีศึกษา กิจการลีลานวดไท จังหวัดเชียงใหม่

Main Article Content

ธนภรณ์ กลิ่นฟุ้ง
ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งศึกษาการสร้างการยอมรับทางสังคมต่อผู้พ้นโทษหญิงผ่านแนวทางการประกอบการวิสาหกิจเพื่อสังคมที่ส่งเสริมการจ้างงานบุคคลผู้สมควรได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ โดยกำหนดวัตถุประสงค์ในการศึกษาไว้ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาแนวทางในการสร้างการยอมรับทางสังคมในการประกอบอาชีพของผู้พ้นโทษหญิง 2) เพื่อศึกษาการนำแนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคมมาใช้เป็นแนวทางในการสร้างการยอมรับในการประกอบอาชีพของผู้พ้นโทษหญิง 3) เพื่อเสนอแนะแนวทางความสำเร็จจากกรณี กิจการลีลานวดไท จังหวัดเชียงใหม่ ในการสร้างการยอมรับทางสังคมในการประกอบอาชีพของผู้พ้นโทษหญิง ในการศึกษาวิจัยนี้ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึก และการค้นคว้าเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยวิธีวิเคราะห์เนื้อหากับผู้ให้ข้อมูลรวมทั้งสิ้น 18 คน


ผลการศึกษาพบว่า แนวทางในการสร้างการยอมรับทางสังคมในการประกอบอาชีพของ ผู้พ้นโทษหญิง พบว่า 1) หน่วยงานราชทัณฑ์ กิจการลีลานวดไท และผู้รับบริการ เป็นผู้มีบทบาทในการส่งเสริมให้เกิดการยอมรับทางสังคม 2) การสร้างความไว้วางใจจากผู้ประกอบการและการสร้างความเชื่อมั่นของผู้พ้นโทษสามารถสร้างการยอมรับทางสังคมได้ และ 3) ความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคส่วนอื่น สามารถให้การสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดการยอมรับทางสังคมได้ ส่วนการศึกษาการนำแนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคมมาใช้เป็นแนวทางในการสร้างการยอมรับในการประกอบอาชีพของผู้พ้นโทษหญิง พบว่า แนวคิดวิสาหกิจเพื่อสังคมสามารถนำมาเป็นแนวทางสร้างการยอมรับฯ ได้ เนื่องจากเป็นการส่งเสริมการจ้างงานกับกลุ่มคนที่สมควรได้รับการส่งเสริมเป็นพิเศษ ช่วยลดอัตราการว่างงาน ดังกรณีศึกษากิจการลีลานวดไทที่มีการจ้างงานผู้พ้นโทษหญิง พร้อมทั้งส่งเสริมให้เรียนหลักสูตรการนวดไทยเพื่อสุขภาพจากโรงเรียนที่กิจการได้จัดตั้งขึ้น พร้อมมอบประกาศนียบัตรและใบขึ้นทะเบียนผู้ให้บริการนวดเพื่อสุขภาพอย่างถูกต้อง ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดในการพัฒนาอาชีพในอนาคตได้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กลิ่นฟุ้ง ธ., & ประทีปพรณรงค์ ต. (2025). การยอมรับทางสังคมต่อผู้พ้นโทษหญิงกับวิสาหกิจเพื่อสังคม: กรณีศึกษา กิจการลีลานวดไท จังหวัดเชียงใหม่. วารสารวิชาการวิทยาลัยบริหารศาสตร์, 8(2), 21–39. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/SASAJ/article/view/274366
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชัญญพัชร บุนนาค. (2559). แนวความคิดการสร้างธุรกิจกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ในประเทศไทย (สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพฯ.

นิศา ศิลารัตน์และวาสิตา บุญสาธร. (2562). ปัจจัยและประโยชน์ในการรับผู้พ้นโทษเข้าทำงานในองค์กร. วารสารการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ. 11(2), 90-115. https://so01.tci-thaijo.org/index.php/HRODJ/article/view/152158/156944.

ติญทรรศน์ ประทีปพรณรงค์. (2566). การพัฒนาอย่างยั่งยืนกับวิสาหกิจเพื่อสังคม (พิมพ์ครั้งที่ 4). นนทบุรี: รัตนไตร.

ธนภรณ์ กลิ่นฟุ้ง. (2567). การยอมรับทางสังคมในการประกอบอาชีพการสร้างการยอมรับทางสังคมในการประกอบอาชีพของผู้พ้นโทษหญิง กรณีศึกษา กิจการลีลานวดไทย จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, กรุงเทพฯ.

พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562. (2562, 22 พฤษภาคม). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 136 ตอนที่ 67 ก หน้า 33.

มติชนออนไลน์. (2566, 10 มีนาคม). กนอ. เปิดแผนตั้ง นิคมฯราชทัณฑ์ ทั่วประเทศ ช่วยผู้พ้นโทษมีรายได้ ลดทำผิดซ้ำ. มติชน. สืบค้นจาก https://www.matichon.co.th/economy/news_3864868

สุทธิดา อุ่นจิต. (2561). ลีลานวดไทย. สืบค้นจาก https://readthecloud.co/people-lila-thai/.

สุภาวดี จรุงธรรมโชติ และรุ่งรัตน์ ชัยสำเร็จ. (2562). ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการสร้างแบรนด์กิจการเพื่อสังคมกลุ่มอาหารออร์แกนิค. ใน การประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิชาการระดับชาติ UTCC Academic Day ครั้งที่ 2 (น. 14.7-1419). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย.

สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ. (2562). ธุรกิจเพื่อสังคม (SOCIAL ENTERPRISE: SE) คืออะไร. สืบค้นจาก https://www.sethailand.org/resource/what-is-social-enterprise-se.

Elisha, E., & Idisis, Y., & Ronel, N. (2012). Window of opportunity: Social acceptance and life transformation in the rehabilitation of imprisoned sex offenders. Aggression and Violent Behavior, 17(4), 323-332. http://doi.org/10.1016/j.avb.2012.03.004

Graffam, J., Shinkfield, A. J., & Hardcastle, L. (2008). The perceived employability of ex-prisoners and offenders. International Journal of Offender Therapy and Comparative Criminology, 52(6), 673-685. http://doi.org/10.1177/0306624X07307783

Razieh, T. N., & Bijandi, M. S. (2012). Bandura's Social Learning Theory & Social Cognitive Learning Theory. Retrieved from https://www.researchgate.net/publication/356129244_Bandura's_Social_Learning_Theory_Social_Cognitive_Learning_Theory_by_Razieh_Tadayon_Nabavi_and_Mohammad_Sadegh_Bijandi