การเชิดสิงโตพื้นและดนตรีประกอบการเชิดสิงโตพื้นรูปแบบเห้อซาน กรณีศึกษา คณะหลงเฉียนไทยแลนด์

ผู้แต่ง

  • สันติภาพ สีเผือก สาขาวิชานาฎยศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
  • ถาวร วัฒนบุญญา สาขาวิชาดนตรีตะวันตกศึกษา วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

คำสำคัญ:

การเชิดสิงโตพื้น, รูปแบบเห้อซาน, ดนตรีประกอบการเชิดสิงโตพื้น, คณะหลงเฉียนไทยแลนด์

บทคัดย่อ

         งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการเชิดสิงโตพื้นรูปแบบเห้อซานและพัฒนาชุดความรู้ฝึกทักษะการเชิดสิงโตให้กับชุมชนฝั่งธนบุรี และเพื่อศึกษาดนตรีประกอบการเชิดสิงโตพื้นรูปแบบเห้อซาน และรวบรวมวิธีการบรรเลงในรูปแบบโน้ตสากลโดยใช้โปรแกรมดนตรีสำเร็จ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) สัมภาษณ์และรวบรวมข้อมูลโดยใช้กรณีศึกษา คณะหลงเฉียนไทยแลนด์

        ผลการวิจัยพบว่า 1. การเชิดสิงโตพื้นรูปแบบเห้อซาน คณะหลงเฉียนไทยแลนด์ นิยมใช้แสดงเป็นวิธีการสมัยใหม่ที่พบในสิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และประเทศไทย มีลักษณะท่าทางที่เลียนแบบอากัปกิริยาของแมวเป็นนาฏยลักษณ์ นิยมใช้เมื่อแสดงการเชิดสิงโตพื้นในโอกาสมงคล กระบวนท่าเริ่มต้น ประกอบด้วย ท่าฉี่ซือ คือ การเดินของสิงโต และ ท่าสิงหลี่ คือ สิงโตโค้งคำนับไหว้ มีท่าพื้นฐานทั้งหมด 7 ท่า เรียกว่า Seven Flowers ได้แก่ ท่าชีปู้ ท่าเสียวเจี่ยน ท่าจงเจี่ยน ท่าต้าเจี่ยน ท่าฉาปู้ ท่าทั่นปู้ และท่าเหอปู้

        การพัฒนาชุดความรู้ฝึกทักษะการเชิดสิงโตให้กับชุมชนฝั่งธนบุรี ผู้วิจัยได้ จัดทำเป็นรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 50 หน้า เนื้อหาประกอบด้วย ประวัติความเป็นมาของการเชิดสิงโตในฝั่งธนบุรี ลักษณะหัวสิงโต กระบวนท่าเชิดสิงโตพื้นรูปแบบเห้อซาน และโน้ตดนตรีประกอบการแสดง และมีการนำไปใช้ประโยชน์ทางการศึกษาให้กับโรงเรียนในฝั่งธนบุรี ผ่านการจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการแสดงสิงโตฝั่งธนบุรีให้กับนักเรียน เยาวชนของชุมชนวัดอินทาราม และตลาดพลู
        2. ดนตรีประกอบการเชิดสิงโตพื้นรูปแบบเห้อซาน คณะหลงเฉียนไทยแลนด์ ใช้เครื่องดนตรี 3 ชนิด คือ 1) กลองสิงโตเป็นเครื่องดนตรีหลักในการบรรเลงประกอบการเชิดสิงโต 2) ฉาบ ใช้บรรเลงเสริมเข้ากับกลองสิงโต เพื่อให้มีจังหวะที่ตื่นเต้นเร้าใจ และ 3) เม้ง ใช้บรรเลงกำกับจังหวะให้กับกลองและฉาบ โดยเรียกการบรรเลงรวมวงนี้ว่า วงมโหรีการรวบรวมวิธีการบรรเลงในรูปแบบโน้ตสากลโดยใช้โปรแกรมดนตรีสำเร็จ ผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดนตรี (Sibelius) เขียนเป็นโน้ตสากล เพื่อบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เริ่มด้วยจังหวะเริ่มต้นเพื่อส่งสัญญาณให้กับผู้เชิดสิงโตรู้ว่าจะเริ่มแสดงแล้ว และต่อด้วยจังหวะเชิด จังหวะไหว้ จังหวะเชิด จังหวะมอง จังหวะเต้นของหัวใจ แล้วจึงจะเริ่มบรรเลงจังหวะที่ 1 ถึงจังหวะที่ 7 ในระหว่างการบรรเลงจังหวะที่ 1 ถึงจังหวะที่ 7 จะคั่นด้วยจังหวะมอง จังหวะเต้นของหัวใจเสมอ เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการเปลี่ยนท่าการเชิดในแต่ละท่านั้น หลังจากบรรเลงจบท่าที่ 7 จะบรรเลงจังหวะไห้วอีกครั้ง และจบด้วยจังหวะลงจบ ตามด้วยการบรรเลงจังหวะกินของมงคล เช่น ส้ม ผักหรือผลไม้ต่าง ๆ ที่เป็นของมงคล และแจกจ่ายให้กับเจ้าภาพ เพื่อความเจริญรุ่งเรือง

เอกสารอ้างอิง

เตชสิทธิ์ รัศมีวงศ์พร. (2563). การพัฒนาองค์ความรู้วัฒนธรรมไทย-จีน เพื่อยกระดับชุมชนย่านธนบุรีเป็นชุมชนท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.

ธัญธัช วิภัติภูมิประเทศ. (2558). การเชิดสิงโต : การแสดงในวัฒนธรรมจีนและกีฬาระดับนานาชาติ. วารสารวิจัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคงศรีวิชัย, 7(2), 81-93.

ปัทมา วัฒนบุญญา และคณะ. (2561). ศิลปะการแสดงฝั่งธนบุรีในศตวรรษที่ 21. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.

พรพิพัฒน์ ราชกิจกำธร และสุภาวดี โพธิเวชกุล. (2565). การเชิดสิงโต : ศิลปะการแสดงวัฒนธรรมย่านฝั่งธนบุรี. ศิลปกรรมสาร, 15(2), 71-88.

สุพิศวง ธรรมพันทา. (2540). มนุษย์กับสังคม. กรุงเทพมหานคร : ดี.ดี.บุ๊คสโตร์.

McGuire, Colin. (2015). The Rhythm of Combat: Understanding the Role of Music in Performance of Tradition Chinese Martial Arts and Lion Dance. MUSICulturess 42 (1): 2 – 23.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-26

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย