เนื้อหาและการสื่อความหมายของเพลงโฟล์คซองคำเมืองของ จรัล มโนเพ็ชร เพื่อกลุ่มผู้ฟังสมัยใหม่: กรณีศึกษาเพลง “พี่สาวครับ”
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาเนื้อหาและการสื่อความหมายของเพลงโฟลค์ ซองคำเมือง “เพลงพี่สาวครับ” ของ จรัล มโนเพ็ชร 2) เพื่อศึกษาองค์ประกอบของเพลงโฟล์คซองคำเมืองที่ส่งผลต่อกลุ่มผู้ฟังเพลงรุ่นใหม่ 3) เพื่อศึกษามุมมองของผู้ฟังเพลงรุ่นใหม่ เพื่อหาช่องทางและโอกาสในการ นำเสนอบทเพลงโฟลค์ ซองคำเมือง “เพลงพี่สาวครับ” ให้ตรงใจผู้ฟัง การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ด้วยเครื่องมือการวิจัยแบบการสัมภาษณ์แบบกึ่งมี โครงสร้าง (Semi-Structured Interview) มีการคัดเลือกผู้ให้ข้อมูลหลัก (Key Informant) ด้วยการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) มีเกณฑ์การคัดเลือกผู้ที่ประกอบวิชาชีพทางด้านเพลงโฟล์คซองคำเมือง และเพลงไทยสากล ได้แก่ อดีตผู้จัดการส่วนตัวของ จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินเพลงล้านนาชื่อดัง โปรดิวเซอร์เพลงสมัยใหม่ ฝ่ายบริหารค่ายเพลงและผู้จัดแสดงคอนเสิร์ต โดยแบ่งเป็นกลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 5 คน และกลุ่มตัวอย่างผู้ฟังเพลงสมัยใหม่ จำนวน 30 คน อายุ 18-40 ปี จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (วิทยาเขต รังสิต) และ บริษัท เอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด โดยการสังเกตแบบมีส่วนร่วมของผู้วิจัยแล้วทำการวิเคราะห์ด้วยการพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่า 1) เพลงมีการเล่าเรื่องด้วยภาษาคำเมืองและการสอดแทรกชีวิตประจำวัน ความงามของศิลปวัฒนธรรมของชาวเหนือ โดยใช้กีตาร์โปร่งซึ่งเป็นเครื่องดนตรีสากลนำมาผสมผสานกับการขับร้องเล่าเรื่องราว มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณจรัล มโนเพ็ชร 2) องค์ประกอบของเพลงโฟล์คซองคำเมือง คือ เนื้อร้องและทำนองเป็นสิ่งที่ไม่ควรเปลี่ยนแปลงหากมีการนำมาทำใหม่ ปัจจัยหลักคือเรื่องของศิลปินที่มาขับร้อง และการเรียบเรียงให้เข้ากับยุคสมัย 3) ช่องทางในการนำเสนอบทเพลงเก่ามาทำใหม่ที่เหมาะสมกับปัจจุบันมากที่สุด คือ อัลบั้มรวมเพลงเก่า คอนเสิร์ต การแสดงโชว์ตามรายการโทรทัศน์ชื่อดัง เพลงประกอบละคร ภาพยนตร์ หรือโฆษณา โดยบันทึกลงสื่อมัลติมีเดีย สื่อออนไลน์ ผู้ชมรุ่นใหม่เห็นว่า ศิลปินอยู่ในกระแส สามารถถ่ายทอดเพลง “พี่สาวครับ”ให้ประสบความสำเร็จมากกว่านักร้องหน้าใหม่หรือนักร้องที่ไม่อยู่ในกระแส
Article Details
บทความวิชาการ บทความวิจัย และบทวิจารณ์หนังสือในวารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (กรณีการทำวิจัยในมนุษย์ ผู้วิจัยต้องผ่านการอบรมจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และนำหลักฐานมาแสดง)
เอกสารอ้างอิง
Ananboonwat, P. (2006). Analysis of local wisdom in Jharon Manophet’s northern folksongs. Master's thesis, Chiang Mai University. [In Thai]
Aungkulpipat, S., & Buasruang, C. (2016). Marketing. Bangkok: Bangkok University. [In Thai]
Jaran Manopetch Alive. (2012). Retrieved December 31, 2017, from https://www.komchadluek.net/news/ent/143682 [In Thai]
Prachayasiri, P. (2009). Analysis of external factors using PEST Analysis. Retrieved December 31, 2017, from https://www.gotoknow.org/posts/282170 [In Thai]
Pi Sao Krub Song .(2011). Retrieved December 31, 2017, from https://lanna-songs.blogspot.com/2011/09/blogpost_8287.html [In Thai]
Photiwat, A. (2001). Love and miss Jaran Manophet. Chiang Mai: PraePim. [In Thai]
Reurnkom, O. (1994). The study of Jaran Manophets Songs: Their reflection of Lanna society and their literary merits. Phitsanulok: Naresuan University Press. [In Thai]
Wanna, P. (1999). Pheng kam meụang. Retrieved December 31, 2017, from https://library.cmu.ac.th/ntic/kammuangmusic.php [In Thai]
Waisayasuwan, N. (2001). Final interview with Jaran Manopetch with the legendary folk city. Bangkok: Nation Weekend. [In Thai]