รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาล
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับของปัจจัยและภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาล (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยกับภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาล (3) ศึกษารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุระหว่างปัจจัยกับภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาล และ (4) ศึกษาอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมของปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาล โดยการวิจัยครั้งนี้ใช้กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 993 คน การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการหาค่าความถี่และร้อยละ, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, Simple Correlation และการวิเคราะห์เส้นทาง (Path Analysis) และหาค่าอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมโดยใช้โปรแกรมลิสเรล
ผลการวิจัย พบว่า (1) ระดับของปัจจัยและภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาลได้รับอิทธิพลรวมจากปัจจัยด้านสถานการณ์ ได้แก่ ปัจจัยด้านภูมิหลัง, ปัจจัยด้านคุณลักษณะ, ปัจจัยด้านสถานการณ์, ปัจจัยด้านพฤติกรรม และภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาล (2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะผู้นำ ได้แก่ ปัจจัยด้านพฤติกรรม ปัจจัยด้านสถานการณ์ ปัจจัยด้านคุณลักษณะ และปัจจัยด้านภูมิหลัง (3) รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะผู้นำมีความสอดคล้องเหมาะสมกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในเกณฑ์ดี และรูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุสามารถอธิบายความแปรปรวนตัวแปรภาวะผู้นำได้ร้อยละ 74.00 และ (4) ปัจจัยด้านสถานการณ์ ปัจจัยด้านพฤติกรรม ปัจจัยด้านภูมิหลัง ปัจจัยด้านคุณลักษณะมีอิทธิพลทางตรงต่อภาวะผู้นำ และพบว่าปัจจัยด้านสถานการณ์ ปัจจัยด้านคุณลักษณะ ปัจจัยด้านภูมิหลังมีอิทธิพลทางอ้อมต่อภาวะผู้นำของผู้บริหารการศึกษาในสังกัดเทศบาล
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการ บทความวิจัย และบทวิจารณ์หนังสือในวารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (กรณีการทำวิจัยในมนุษย์ ผู้วิจัยต้องผ่านการอบรมจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และนำหลักฐานมาแสดง)
เอกสารอ้างอิง
Amornchewin, B. (2013). Managing for results. Parbpim. [In Thai]
Burrow, J. L., Kleindl, B., & Everard, K. E. (2008). Business principles management. Thomson South-Western.
Campbell, D., & Craig, T. (2005). Organisations and the business environment (2nd ed.). Elsevier Butterworth-Heinemann.
Chongvisal, R. (2016). Leadership: Theory, research and approach to development. Chulalongkorn University Press. [In Thai]
Frohman, D., & Howard, R. (2008). Leadership the hard way: why leadership can’t be taught and how you can learn it anyway. Jossey-Bass.
Greenwald, H. P. (2008). Organizations: Management without control. Sage.
Henein, A., & Morissette, F. (2007). Made in Canada leadership: Wisdom from the nation’s best and brightest on leadership practice and development. John Wiley & Sons.
Hunsaker, P. L. (2005). Management: A skills approach (2nd ed.). Prentice Hall.
Klann, G. (2007). Building character: Strengthening the heart of good leadership. Jossey-Bass.
Nonthnathorn, P. (2015). Operational leadership: LIFF model. Social Enterprise Leadership Center, Kasetsart University. [In Thai]
Northouse, P. G. (2007). Leadership: Theory and practice. Sage.
Puksawadde, A. (2013). Public relations for image building. V. Print. [In Thai]
Roongrerngsuke, S. (2012). Smart Leadership: Leadership strategy at the guru level. Krungthep Turakij Media. [In Thai]
Storey, J. (2004). Leadership in organizations: Current issues and key trends. Routledge.
Viraku, B. (2015). Leadership. National Institute of Development Administration. [In Thai]
Yawirat, N. (2015). Organization development and change. Triple Group. [In Thai]