การวิเคราะห์ข่าวสารและหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสารในยุคดิจิทัลของผู้รับสาร เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาการเท่าทันข่าวสารในยุคดิจิทัลของผู้รับสาร (2) เพื่อศึกษาการวิเคราะห์ข่าวสารและหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสารในยุคดิจิทัลของผู้รับสาร (3) เพื่อศึกษารูปแบบการวิเคราะห์ข่าวสารและหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสารในยุคดิจิทัลของผู้รับสาร และ (4) เพื่อพัฒนารูปแบบการวิเคราะห์ข่าวสาร และหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสารในยุคดิจิทัลของผู้รับสาร เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยแบบผสานวิธีระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ตัวอย่างประชาชนในเขตสายไหมที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป รวมจำนวน 400 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างสัมภาษณ์เจาะลึกผู้ให้ข้อมูลคนสำคัญ รวมจำนวน 12 คน และวิธีการสนทนากลุ่มกับผู้ทรงคุณวุฒิ รวมจำนวน 20 คน และการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า การเท่าทันข่าวสารในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย ด้านการเข้าถึงข่าวสาร ด้านการวิเคราะห์เนื้อหาข่าวสาร ด้านการประเมินสื่อ ด้านการสร้างสรรค์เนื้อหา ในการวิเคราะห์ข่าวสารและหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสารมีความสัมพันธ์กับการเท่าทันข่าวสารในยุคดิจิทัล รูปแบบการวิเคราะห์ข่าวสารและหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสารในยุคดิจิทัล ประกอบด้วย การวิเคราะห์ข่าวสาร หลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสาร แนวทางการวิเคราะห์ข่าวสารและหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสาร และการเท่าทันข่าวสารในยุคดิจิทัล ส่วนการพัฒนารูปแบบการวิเคราะห์ข่าวสาร และหลักเกณฑ์การแบ่งปันข่าวสารในยุคดิจิทัลอาศัยความเชื่อมโยงกันในแต่ละด้าน
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการ บทความวิจัย และบทวิจารณ์หนังสือในวารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (กรณีการทำวิจัยในมนุษย์ ผู้วิจัยต้องผ่านการอบรมจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และนำหลักฐานมาแสดง)
เอกสารอ้างอิง
Anti-Fake News Center Thailand. (2020). Fake news. Retrieved from https://www.antifakenewscenter.com [In Thai]
Biggins, U. (2012). Media and information literacy. Suthiparithat Journal, 26(80), 147-162. [In Thai]
Bunsiriphan, M. (2013). Introduction to journalism: Philosophy and concepts (2nd ed.). Thammasat University Press. [In Thai]
Boonyen, K. (2019). Characters of sharers that new gen marketers must know. Retrieved from http://www.bizpromptinfo.com [In Thai]
Jittrawudtiporn, P. (2018). The selection of VDO clips in social media for television news program
broadcasting. Master’s Thesis of Communocation Arts (Strategic Communications), Bangkok University. [In Thai]
Eristi, B., & Erdem, C. (2017). Development of a media literacy skills scale. Contemporary Educational Technology, 8(3), 249-267.
Euamornvanich, P. (2018). Media literacy in social media. The Golden Teak, Humanity and Social Science Journal, Kamphaeng Phet Rajabhat University, 4(3), 97-109. [In Thai]
Hinkle, D. E., Wiersma, W., & Jurs, S. G. (2003). Applied statistics for the behavioral sciences (5th ed). Houghton Mifflin.
Hydro Informatics Institute. (2011). Summary of the situation and facts from the great flood in 2011. Retrieved from http://tiwrmdev.hii.or.th/current/2011/flood54.html [In Thai]
Kositpipat, O. (2016). News reporting. Digital Publisher. [In Thai]
Kositpipat, O. (2021). Model of media literacy in news presentation in the convergence era of the receivers in Sai Mai district. Phranakhon Rajabhat University, Faculty of Management Science. [In Thai]
Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. Archives of Psychology, 22(140), 5-55.
Office of The National Broadcasting and Telecommunications Commission. (2018). Manual integration of teaching and learning “literacy media.” Author. [In Thai]
Sayprom, K. (2020). The effect of news value on issue selection in social media. Academic Journal of Humanities and Social Sciences Burapha University, 28(2), 29-54. [In Thai]
