หลักนิติธรรมกับการคุ้มครองสิทธิในครอบครัวของบุคคลเพศหลากหลาย: ศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพพลวัตของปัญหาและพัฒนาการด้านการเรียกร้องและการคุ้มครองสิทธิในครอบครัวของบุคคลเพศหลากหลายในประเทศและต่างประเทศ ศึกษาหลักการสำคัญและความจำเป็นในการคุ้มครองสิทธิในครอบครัวตามรัฐธรรมนูญของบุคคลเพศหลากหลายที่เหมาะสมสอดคล้องกับหลักนิติธรรม รวมทั้งศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไทยและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิในครอบครัวของบุคคลเพศหลากหลาย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาวิเคราะห์จากเอกสาร คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและกรณีศึกษาจากต่างประเทศ
ผลการวิจัยพบว่า ประเทศไทยไม่มีกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิครอบครัวของบุคคลเพศหลากหลายอย่างชัดเจน สิทธิในการสร้างครอบครัวของบุคคลเพศหลากหลายถือเป็น "สิทธิอุบัติใหม่" ส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญไทยมีข้อจำกัดในการใช้หลักนิติธรรมในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในครอบครัวของบุคคลเพศหลากหลาย จากการวิเคราะห์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและกรณีศึกษาจากต่างประเทศ พบว่าศาลรัฐธรรมนูญในต่างประเทศได้พัฒนาแนวทางการตีความกฎหมายแบบใหม่ที่เรียกว่า "หลักนิติธรรมเชิงพลวัตแบบบูรณาการ" (integrated dynamic rule of law) ซึ่งเป็นการตีความกฎหมายที่มีความยืดหยุ่น ก้าวหน้า และสอดคล้องกับบริบทของสังคมพหุวัฒนธรรม หลักการนี้ให้ความสำคัญกับการปรับใช้กฎหมายให้เข้ากับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การใช้หลักนิติธรรมเชิงพลวัตแบบบูรณาการครอบคลุมไปถึงประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิครอบครัว เช่น สิทธิในการรับบุตรบุญธรรม สิทธิในการรับมรดก หรือสิทธิในการได้รับสวัสดิการต่างๆ จากรัฐ โดยมองว่าครอบครัวในปัจจุบันมีความหลากหลายและไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียว การตีความเช่นนี้ส่งผลให้กฎหมายสามารถตอบสนองต่อความต้องการและความหลากหลายของสังคมสมัยใหม่ได้ดียิ่งขึ้น ด้วยเหตุที่กล่าวมา การพิจารณาคดีในศาลรัฐธรรมนูญควรพัฒนาแนวทาง การตีความที่ก้าวหน้าและยืดหยุ่น โดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของสังคมและความหลากหลายของรูปแบบครอบครัว ควรมีการพัฒนาระบบการคุ้มครองสิทธิที่ทันสมัยโดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาระบบการคุ้มครองสิทธิเพื่อให้เกิดการคุ้มครองสิทธิที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการ บทความวิจัย และบทวิจารณ์หนังสือในวารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (กรณีการทำวิจัยในมนุษย์ ผู้วิจัยต้องผ่านการอบรมจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ และนำหลักฐานมาแสดง)
เอกสารอ้างอิง
Johnson, J. W. (2005). Griswold v. Connecticut: Birth control and the constitutional right of privacy. University Press of Kansas.
Kampusiri, P. (2014). The historical judgment of the United States Supreme Court (Right to marriage of same-sex persons). Thammasat University Law Journal, 43(2), 235-242.
Kraiwichian, K. (2010). The rule of law. Chuan Phim Printing House.
Locke, J. (1988). Two treatises of government. In Peter Laslett (Ed.). Cambridge University Press.
Phakirattan, W. (2012). The rule of law and the rule of law. Chulaniti Journal, 9(1), 49-67.
Singkaneti, B. (2015). Fundamentals of human rights, freedoms, and dignity (5th ed.). Winyuchon.
Singkaneti, B. (2022). Important issues that should be and should be amended according to the Constitution of the Kingdom of Thailand 2017: The Rule of Law. King Prajadhipok's Institute.
Sooksom, A. (2019) The guidelines for the right to gender identity recognition in Thailand based on the perspective of the foreign laws. Songklanakarin Law Journal, 5(1), 24-43.
Sungsekeow, W. (2005). Gender reassignment surgery recognition laws in European countries: Legal status after sex reassignment surgery. Chul Niti" Journal, 2(4), 68-84.
Tinnam, C., Oompornuwat, K., & Duaidee, R. (2021). LGBTIQN+ Health Strategy in Thailand. Nakhon Pathom: Sexuality Education Association.
Tosuwan, N., & Sutawan, J. (2021). The effects of Thai rule of law on the legal and political system after the 2006 coup. Academy Journal of Northern, 7(2), 21-28.
Uwanno, B. (2021). Public law volume 1: Philosophical evolution and characteristics of public law in various eras (8th ed.). Winyuchon.