การบริหารความเป็นเลิศ : กลยุทธ์สู่การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ของโรงเรียนมัธยมศึกษา
คำสำคัญ:
กลยุทธ์ , การบริหารความเป็นเลิศ , โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้บทคัดย่อ
ในบทความมีวัตถุประสงค์ที่จะนำเสนอให้เห็นถึงแนวคิดการพัฒนาโรงเรียนให้เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ จะสามารถทำให้เกิดการบริหารจัดการองค์กรสู่ความเป็นเลิศในระดับมัธยมศึกษาซึ่งเป็นผลจากการศึกษาวิจัย เรื่อง กลยุทธ์การบริหารความเป็นเลิศของโรงเรียนมัธยมศึกษาสู่การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ของผู้เขียน โดยเริ่มต้นนำเสนอด้วย 1) แนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community) ในต่างประเทศ และในประเทศไทย 2) องค์ประกอบโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ และคุณลักษณะของโรงเรียนที่เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ 3) บริบทภายนอกของการบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา นโยบายและการบริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4) การบริหารความเป็นเลิศโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานด้วยเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Office of Basic Education Commission Quality Award : OBECQA) และ 5) การกำหนดกลยุทธ์การบริหารความเป็นเลิศของโรงเรียนมัธยมศึกษาสู่การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้
กลยุทธ์การบริหารความเป็นเลิศของโรงเรียนมัธยมศึกษาสู่โรงเรียนเป็นชุมชน แห่งการเรียนรู้ ประกอบด้วย 6 กลยุทธ์ ได้แก่ 1) พลิกโฉมการพัฒนาขีดความสามารถของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีวิสัยทัศน์และแนวคิดตามปรัชญาสู่โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ 2) พลิกโฉมการพัฒนากระบวนทัศน์ (Mind set) ของผู้นำองค์กร ด้านปรัชญาและระบบกิจกรรม สู่โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ 3) พลิกโฉมการสร้างปฏิสัมพันธ์และความผูกพันกับผู้เรียนผู้มีส่วนได้เสียให้เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิรูปการจัดการศึกษาของโรงเรียนตามแนวคิดปรัชญาสู่โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 4) พัฒนาระบบการวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ให้สอดคล้องกับปรัชญาและระบบกิจกรรมสู่โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ 5) พัฒนากรอบความคิด (Mindset) การปฏิบัติงานของครู ให้สอดรับกับปรัชญาและระบบกิจกรรม สู่โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ และ 6) ต่อยอดแผนกลยุทธ์ที่สอดรับกับวิสัยทัศน์สู่โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้
เอกสารอ้างอิง
ซาโต มานาบุ. (2559). การปฏิรูปโรงเรียน แนวความคิด “ชุมชนแห่งการเรียนรู้” กับการนำทฤษฎีมาปฏิบัติจริง. นนทบุรี : โรงพิมพ์ภาพพิมพ์.
ณัฏฐพันธ์ เขจรนันทน์. (2552). การจัดการเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพมหานคร : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ตรีนุช เทียนทอง. (2564). นโยบายการจัดการศึกษา 7 วาระเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://moe360.blog/2021/03/29/29-3-2564
พรรณวดี ปามุทา, สุภัทรา เอื้อวงศ์ และ ชญาพิมพ์ อุสาโห. (2561) “ปัจจัยความสำเร็จในการบริหารจัดการโรงเรียนมาตรฐานสากล ระดับประถมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน”. วารสารศึกษาศาสตร์ มสธ. ปีที่ 11 ฉบับที่ 1. หน้า 146-161.
ยูเนสโก. (2539). การเรียนรู้ขุมทรัพย์ในตน (Learning : The Treasure Within). รายงานเสนอต่อยูเนสโก โดยคณะกรรมาธิการนานาชาติว่าด้วยการศึกษา ในศตวรรษที่ 21. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ 2540 ฉบับภาษาไทย.
ราตรี ศรีไพรวรรณ. (2555). การพัฒนากลยุทธ์การบริหารสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนมาตรฐานสากลระดับประถมศึกษา. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณทิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ลัดดา ภู่เกียรติและคณะ (ม.ป.ป). แนวทางการสร้างโรงเรียนแห่งชุมชนการเรียนรู้กรณีศึกษาโรงเรียนสาธิตพัฒนา. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.satitpattana.ac.th/web/news/public_ksp_OneSchoolOneInnovation2560/Guide_to_Creating_School_Community_Learning.pdf
ศนิชา ภาวโน. (2562). รูปแบบการพัฒนาผู้บริหารโรงเรียนตามแนวคิดโรงเรียนเป็นชุมชน แห่งการเรียนรู้. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล. (2562). โรงเรียนพุทธจักร : ชุมชนการเรียนรู้นำร่อง เพื่อประสิทธิภาพของผู้เรียนและครู โรงเรียนพุทธจักรวิทยา : ชุมชนการเรียนรู้นำร่อง เพื่อประสิทธิภาพของผู้เรียนและครู. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://adaybulletin.com/life.com/life-feature-lifelong-learning-buddhajakwittaya-school/42223.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2557). นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558. กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณ์ การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). คู่มือประกอบการอบรมการขับเคลื่อน กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพสู่สถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). ยุทธศาสตร์การศึกษาขั้นพื้นฐาน 20 ปี(พ.ศ. 2561-2580). สืบค้นจาก https://www.obec.go.th/wp- content/uploads/2019/06/
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2562). ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561-2580 (ฉบับย่อ). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.nesdc.go.th/download/document/SAC/NS_SumPlanOct2018.pdf
สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา. (2563). การประชุมปฏิบัติการจัดทำแนวทางการยกระดับคุณโรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ (School as Learning Community). เพื่อพัฒนาสมรรถนะพลเมืองรุ่นใหม่. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.innoobec.com/?p=174333#page-content.
อนงค์กาญจน์ ศรีจันทร์. (2563). แนวทางพัฒนาการบริหารโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ตามแนวคิด โรงเรียนเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Caron Elizabeth A. and Mclaughlin A. 2002. “Indicators of Becons of excellence schools : What do they tell us about collaborative practice”. Journal of education & Psychological consultation. Vol. 13 No. 4. pp. 285-304.
Coulter. (2008). Strategic management in Action. (4th ed.). New Jersey: Pearson Education.
Kruse, S. D., & Louis, K. S. (1993). An Emerging Framework for Analyzing School-Based Professional Community. the annual meeting of the American Educational Research Association.
OFSTED. (2012). Provides links to school reports and official publications as well as a FAQ and contact details. [Online]. From:http://www.tame side.gov.uk/school grid/self assess/framework.htm
Shapiro, N. S., & Levine, J. H. (1999). Creating Learning Communities : A Practical Guide to Winning Support, Organizing for Change, and Implementing Programs. Jossey Bass Higher and Adult Education Series: ERIC.
Smith, B., & MacGregor, J. (2009). Learning Communities and the Quest for Quality. Quality Assurance in Education. Vol. 17, 118-139. doi:10.1108/09684880910951354
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 จิณณภัทร พิบูลวิทิตธำรง

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว