ความสำเร็จในการพัฒนาสังคมขององค์กรรับทุนกฬีามวยไทย : กรณีศึกษาโครงการลานกีฬามวยไทยต้านภัยยาเสพติด ลานมวยครูเสือ
คำสำคัญ:
มวยไทย, พัฒนาสังคม, องค์กรรับทุนบทคัดย่อ
การศึกษาเรื่องความสำเร็จในการพัฒนาสังคมขององค์กรรับทุนกีฬามวยไทย : กรณีโครงการลานกีฬามวย ไทยต้านภัยยาเสพติด ลานมวยครูเสือ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยในการบริหารจัดการสู่ความสำเร็จ ในการพัฒนาสังคมขององค์กรรับทุนกีฬามวยไทย กรณีศึกษาโครงการลานกีฬามวยไทยต้านภัยยาเสพติด ลานมวยครูเสือ (2) เพื่อศึกษาความสำเร็จในการพัฒนาสังคมขององค์กรรับทุนกีฬามวยไทย กรณีศึกษา โครงการลานกีฬามวย ไทยต้านภัยยาเสพติด ลานมวยครูเสือ (3) เพื่อศึกษาประโยชน์ที่ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับจากจัดโครงการลานกีฬามวย ไทยต้านภัยยาเสพติด ลานมวยครูเสือ ต่อการพัฒนาสังคมขององค์กรรับทุน ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ ในวงการมวยไทย และครูมวยลานมวยครูเสือทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ลานมวยครูเสือวังทองหลาง ลานมวยครูเสือคลองเตย ลานมวยครูเสือวัด ชลประทานรังสฤษดิ์ พระอารามหลวง และลานมวยครูเสือกรุงธนบุรี ซึ่งมีจำนวน 28 ท่าน เก็บข้อมูลโดยการ สัมภาษณ์เจาะลึก (In-depth interview) และกลุ่มที่สองได้แก่ เยาวชน ผู้ปกครอง และผู้เข้าร่วมโครงการลานกีฬา มวยไทยต้านภัยยาเสพติด ลานมวยครูเสือ จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 182 คน โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บข้อมูลจาก แบบสอบถาม แล้วนำมาวิเคราะห์เนื้อหาและการวิเคราะห์ทางสถิติ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ทำให้โครงการสามารถดำเนินการได้และประสบความสำเร็จประกอบด้วย (1) การได้รับความร่วมมือจากชุมชน (2) การดำเนินการด้วยรูปแบบองค์กรการกุศล (3) การสร้างความเข้าใจให้กับผู้ปกครอง (4) ครูมวยที่มีจิตวิญญาณของความเป็นครู (5) เจ้าหน้าที่ที่เป็นที่ไว้วางใจ (6) การจัดกิจกรรมร่วมกัน ระหว่างโครงการกับชุมชน (7) งบประมาณ ผลสำเร็จจากโครงการลานมวยครูเสือ ทำให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์ นับตั้งแต่ประโยชน์ต่อเยาวชน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ประโยชน์ต่อครอบครัวในการต่อยอดพัฒนาเยาวชนไป ในทางที่ถูกต้อง ประโยชน์ต่อชุมชนที่ช่วยแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้มแข็งในชุมชน ประโยชน์ต่อสังคมโดยการ สร้างทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพในการพัฒนาประเทศชาติ รวมทั้งอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย
เอกสารอ้างอิง
2. กระทรวงสาธารณสุข. (2560). วิวัฒนาการทางการแพทย์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://mophaccess.moph.go.th/index.php/2013-07-15-03-58-59.
3. กิติพัฒน์ นนทปัทมะดลุย์. (2553). ทฤษฎีสังคมสงเคราะห์ร่วมสมัย. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ มหาวิทยาลยัธรรมศาสตร์.
4. คณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยวัฒนธรรมและพัฒนา. (2541). วัฒนธรรมอันหลากสีของมนุษยชาติ : รายงานของ คณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยวัฒนธรรมและการพัฒนา. กรุงเทพมหานคร : ส านักเลขาธิการคณะกรรมการ แห่งชาติว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวฒันธรรมแห่งสหประชาชาติ กองการสัมพันธ์ต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ.
5. โครงการลานกีฬามวยไทยตา้นภัยยาเสพติด . (2560). ประวัติความเป็นมา วัตถุประสงค์ และเป้าหมายของ โครงการลานกีฬามวยไทยต้านภัยยาเสพติด. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.ptu.ac.th/lanmuay/about1.php
6. พระครูปลัดสราวุธ ฐิตปญโฺญ. (2558). “พระสงฆ์กับการพัฒนาสังคม”. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์. ปีที่ 3 ฉบับที่ 2. พฤษภาคม-สิงหาคม 2558. นครสวรรค์ : วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์.
7. พระมหาสมเกียรติ พวงใย. (2552). วิถีชีวิตการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมของนักมวยไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
8. พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2540). วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : สำนักทดสอบทาง การศึกษาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
9. โพธิ์สวัสดิ์ แสงสว่าง. (2522). พัฒนาการกีฬามวยไทย. วิทยานพินธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
10. สถาบันอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2555). ศิลปะมวยไทย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.dpe.go.th/content/file/article/0224161456316608.pdf
11. สุรวัฒน์ ปัตตานี. (2550). แนวทางการพัฒนามวยไทยอาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามการรับรู้ของนักมวย และผู้ฝึกสอนกีฬามวยไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขามวยไทยศึกษา. วิทยาลัยมวย ไทยศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง.
12. สำนักงานส่งเสริมกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2559). โครงการที่ได้รับอนุมัติงบประมาณ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://www.thaihealth.or.th/Content/33187โครงการที่อนุมัติตั้งแต่ ปีงบประมาณ%202557.html
13. Babiak, K., & Wolfe, R. (2009). Determinants of corporate social responsibility in professional sport: internal and external factors. Journal of Sport Management, 23(6), 717-742.
14. Bridges, F., & Roquemore L. (1996). Management for athletic sport administration : Theory and practice. 2nd ed. Decatur, GA : ESM Books.
15. Bonavia, Martin, Tomas. (1998). Managers’ Behavior and Development of Organizational Participation. Ph.D. Dissertation. Universitat De Valencia (Spain).
16. Charities Aid Foudation. (2011). World Giving Index 2011.
17. Guoying Yuan, Houzhong Jin & Hongquan Li. (2011). Theoretical Research on Building Communities of Mixng Sport into Life.
18. Henri Fayol. (1916). General and Industrial Management. London : Sir Isaac Pitman and Sons.
19. Krejcie, R.V.,and Morgan D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Psycholological Measurement. R.P.
20. Misra and M. Honjo, eds. (1981). Changing Perception of Development Problems. 10 vols. Nagoya, Japan: U.N. Centre for Regional Development.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว