การสร้างคู่มือฝึกอบรมสำหรับพัฒนาคุณลักษณะอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน จังหวัดตราด
คำสำคัญ:
คู่มือฝึกอบรม, อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้างคู่มือฝึกอบรมสำหรับพัฒนาคุณลักษณะอาสาสมัครพิทักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน 2) เปรียบเทียบความรู้ของอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน โดยใช้คู่มือฝึกอบรม ในระยะก่อนอบรม หลังอบรม และติดตามผลโดยใช้วิธีวิจัยแบบผสานวิธี แบ่งออกเป็น 2ระยะ คือ ระยะที่ 1 การสร้างคู่มือฝึกอบรมเพื่อพัฒนาอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน และระยะที่ 2 การพัฒนาคุณลักษณะอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมู่บ้าน โดยใช้คู่มือฝึกอบรมและจัดกิจกรรมฝึกอบรมอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ณ ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จำนวน 30 คน ระยะเวลาฝึกอบรม จำนวน 16 ชั่วโมงเครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบประเมินคู่มือฝึกอบรมอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน แบบวัดความรู้การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์ เนื้อหา และเปรียบเทียบความรู้ของอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน โดยรวม ในระยะก่อนอบรม หลังอบรม และติดตามผล โดยการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ , S.D. และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยพบว่า 1. การสร้างคู่มือการจัดกิจกรรมพัฒนาอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน พบว่า คู่มือฝึกอบรมอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน เป็นคู่มือที่มีคุณภาพและมีความ เหมาะสมที่จะนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมพัฒนาอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ในระดับมากที่สุด (
=4.70, S.D. = .46) 2. การพัฒนาคุณลักษณะอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน โดยใช้คู่มือฝึกอบรมและจัดกิจกรรมฝึกอบรมอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ณ ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด จำนวน 30 คนใช้ระยะเวลาฝึกอบรม จำนวน 16 ชั่วโมงพบว่า อาสาสมัครพิทักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านที่เข้าร่วมฝึกอบรม มีคะแนนเฉลี่ยก่อนการอบรม เท่ากับ 23.43 คะแนน คะแนนเฉลี่ยหลังการอบรม เท่ากับ 34.87 และคะแนนเฉลี่ยระยะติดตามผล เท่ากับ 33.50 คะแนน และผลการเปรียบเทียบความรู้ของอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน พบว่าอาสาสมัครพิทักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ในระยะหลังเข้าอบรม และระยะติดตามผลหลังจากเข้าฝึกอบรม อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน โดยใช้คู่มือฝึกอบรมที่สร้างขึ้น มีคะแนนเพิ่มขึ้นสูงกว่า ก่อนเข้ารับการฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
เอกสารอ้างอิง
2. กิตติ ยงค์สงวนชัย สุนทรี จนีธรรม และ ปัณณ์รภัส ถกลภักดี. (2559). “การพัฒนาชุดฝึกอบรมด้านการอนุรักษ์ปาชายเลนสำหรับยุวอาสารักษ์บางปู ที่ศูนย์การศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี. ”วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี. 8 (2), 55-56.
3. เกียรติภูมิ จันเต สุนทรี จีนธรรม และ ปัณณ์รภัส ถกลภักดี. (2559). “การพัฒนาศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาด้านภูมิปัญญาการอนุรักษ์ผึ้งสายพันธุ์ชันโรง ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี.” วารสารวิจัยทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มศว. 11(1), 2.
4. เกษม จันทร์แก้ว. (2536). สิ่งแวดล้อมศึกษา. กรุงเทพมหานคร : อักษรสยามการพิมพ์.
5. ธงชัย นลิคา. (2555). การศึกษาและส่งเสริมคุณลักษณะนักสิ่งแวดล้อมศึกษาสำหรับนิสิตปริญญาตรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดษุฎีบัณฑิต สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
6. บุญเชิด ภิญโญอนนัตพงษ์. (2545). การพัฒนาเครื่องมือสำหรับการประเมินทางการศึกษา. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
7. ไพฑูรย์ สุขศรีงาม. (2551). การเรียนรู้ตามกลุ่มสร้างสรรค์ความรู้ (Constructivism). เอกสารประกอบการสอน วิทยาศาสตร์ศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
8. วราพร ศรีสุพรรณ.(2536). สิ่งแวดล้อมศึกษา. กรุงเทพมหานคร : มูลนิธิโลกสีเขียว.
9. วิจิตร อาวะกุล. (2540). การฝึกอบรม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร : ศูนย์หนังสือจุฬาลงกรณ์.
10. วินัย วีระวัฒนานนท์. (2546). สิ่งแวดล้อมศึกษา (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร : โอ.เอส. พริ้นติ้ง เฮาส์.
11. วินัย วีระวัฒนานนท์. (2553). นักสิ่งแวดล้อมศึกษามืออาชีพ. พิษณุโลก : พิษณุโลกดอทคอม.
12. สมนึก ภัททิยธนี. (2546). การพัฒนาชุมชน. ขอนแก่น : คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยัขอนแก่น.
13. สุชาติ ประสิทธิ์รัฐสินธุ์. (2544). การสร้างมาตรวัดในการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร : ภาพพิมพ์.
14. UNESCO. (1996). Learning for a Sustainable Environment: An Agenda for Teacher Education in Asia and the Pacific. Bangkok: UNESCO Principal Regional Office for Asia and the Pacific.
15. Wilke, et al. (1987). Environmental Education Programme, Environmental Education Series No.25. UNESCO Division of Science, Technical and Environmental Education Paris.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว