ผลการใช้รูปแบบธนาคารต้นไม้ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ตำบลหันทราย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
คำสำคัญ:
ผลการใช้รูปแบบ, ธนาคารต้นไม้, การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลการปฏิบัติการใช้รูปแบบธนาคารต้นไม้เพื่อการ อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ตำบลหันทราย ในด้านความรู้ ความตระหนัก การปฏิบัติ ตามรูปแบบธนาคารต้นไม้ของผู้เข้าร่วมปฏิบัติการ โดยเปรียบเทียบก่อนและหลังการปฏิบัติการตามรูปแบบธนาคารต้นไม้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตำบลหันทราย 2) ศึกษาความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมปฏิบัติการที่มีต่อรูปแบบธนาคารต้นไม้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้หลัง การปฏิบัติการตามรูปแบบ ประชากร ได้แก่ ตัวแทนครัวเรือนในตำบลหันทราย อ าเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จำนวน 1,572 คน กลุ่มตัวอย่างเจาะจงเลือกจากตัวแทนครัวเรือนที่สมัครใจเข้าร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ตามรูปแบบธนาคารต้นไม้ จำนวน 60 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1) แบบทดสอบความรู้ (2) แบบสอบถามเจตคติ (3) แบบสอบถาม การปฏิบัติ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และค่าสถิติที ผลการวิจัยพบว่า 1. ก่อนเข้าร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ตามรูปแบบธนาคารต้นไม้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ตำบลหันทราย ประชาชนมีความรู้โดยรวมอยู่ในระดับต่ำ ที่คะแนนร้อยละ 39.83 และหลังเข้าร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ตามรูปแบบ ธนาคารต้นไม้ ประชาชนมีความรู้โดยรวมเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง ที่คะแนนร้อยละ 77.92 ในด้านความตระหนัก พบว่า ก่อนเข้าร่วมปฏิบัติการตามรูปแบบประชาชนมีความตระหนักอยู่ในระดับมาก ที่คะแนนเฉลี่ย 3.90 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.12 และหลังเข้าร่วมปฏิบัติการ มีระดับความตระหนักอยู่ในระดับมากที่สุด ที่คะแนนเฉลี่ย 4.55 ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน .49 ในด้านการปฏิบัติ ก่อนเข้าร่วมปฏิบัติการตามรูปแบบ มีระดับการปฏิบัติในระดับปานกลาง ที่ คะแนนเฉลี่ย 2.70 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .88 และหลังเข้าร่วมปฏิบัติการตามรูปแบบ มีระดับการปฏิบัติเพิ่มขึ้นเป็น ระดับมากที่สุด ที่คะแนนเฉลี่ย 4.72 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .45 2. หลังเข้าร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ ประชาชนมีความรู้ ความตระหนักและการปฏิบัติ เพิ่มขึ้นแตกต่างกันกับ ก่อนเข้าร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ประชาชนที่เข้าร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ตามรูปแบบมีความพึงพอใจต่อรูปแบบธนาคารต้นไม้เพื่อการอนุรักษ์ ทรัพยากรป่าไม้ตำบลหันทราย หลังการเข้าร่วมปฏิบัติการเรียนรู้ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ที่คะแนนเฉลี่ย 4.58 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน .49
เอกสารอ้างอิง
2. บุญเรือง เลี้ยงรัตนชัยกุล. (2560). การพัฒนารูปแบบธนาคารต้นไม้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ตำบลหันทราย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์.
3. ผจญ สิทธิกนั. (2544). บทบาทขององค์การบริหารส่วนต าบลในการจัดการทรัพยากรป่าไม้ : กรณีศึกษาจังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธป์ริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
4. พัฒนา พรหมณี. (2558). การพัฒนารูปแบบการฝึกอบรมเกษตรกรในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพื่อลดผลกระทบที่มีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปูถัมภ์.
5. พัดสญา พนูผล. (2557). “การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวฒันธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.” วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์. 4(2): 127-139.
6. วินัย วีระวัฒนานนท์. (2554). สิ่งแวดล้อมกับการพัฒนา. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์.
7. สถิตย ศิริธรรมจักร. (2552). ผลของการเรียนแบบวัฏจักรการเรียนรูที่ใช้พหุปัญญาและการเรียนรูตามคู่มือครูที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความคิดวิจารณญาณ และความตระหนักต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานพินธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
8. สมาน ด้วงพรหม. (2557). รูปแบบการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษาแบบบูรณาการ เรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ สำหรับนักเรียนระดับประถมศกึษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสิ่งแวดล้อมศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปูถัมภ์.
9. สมชาย วรกิจเกษมสกุล. (2554). ระเบียบวิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 2. อุดรธานี : อักษรศิลป์การพิมพ์.
10. อมร ทรงพุฒ และคณะ. (2559). “ผลการใช้กระบวนการพัฒนายุวชนสีเขียวในการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนแบบมีส่วนร่วม. ”วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์. 6(3): 132-144
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว