พุทธรัฐศาสตร์สำหรับการส่งเสริมความมั่นคงแห่งพลเมือง

ผู้แต่ง

  • รองศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ จันตะนี คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

พุทธรัฐศาสตร์, การส่งเสริมความมั่นคง

บทคัดย่อ

การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาทฤษฎีรัฐศาสตร์และความมั่งคงของพลเมืองตามแนว พระพุทธศาสนา 2) เพื่อวิเคราะห์ความมั่งคงของพลเมืองในรัฐตามแนวทางพระพุทธศาสนาและ 3) เพื่อเสนอ แนวทางการส่งเสริมความมั่นของพลเมืองตามแนวทางพระพุทธศาสนา โดยศึกษาค้นคว้า เอกสารที่เกี่ยวกับความ มั่นคงของพลเมืองและการสัมภาษณ์เชิงลึกตามระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งผู้ให้ข้อมูลจำนวน 12 รูป/คน เป็นพระภิกษุ 6 รูป และเป็นคฤหัสถ์ 6 คน และการสังเคราะห์เพื่อสรุปเป็นแนวทางการส่งเสริมความมั่นคง ของพลเมืองตามแนวทางพระพุทธศาสนา ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ สรุปข้อค้นพบเกี่ยวกับหลักพุทธธรรมสำหรับการส่งเสริมความมั่งคงของพลเมืองคือ ราชสังคหวัตถุ 4 เป็น การบำรุงธัญญาหารให้อุดมสมบูรณ์ ส่งเสริมคนดีมีความประพฤติดี ส่งเสริมอาชีพสุจริตแก่ประชาชน และการพูดจา ปราศรัยให้ไพเราะมีเหตุผลและเป็นประโยชน์ สาราณียธรรม 6 คือการช่วยเหลือกิจการของผู้ร่วมหมู่คณะด้วยความ เต็มใจ แสดงกิริยาอาการสุภาพ เคารพนับถือกันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ช่วยบอกสิ่งที่เป็นประโยชน์ สั่งสอนแนะนำ ตักเตือนด้วยความหวังดี ส่วนหนทางสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์ของบุคคลทั้งปวงและส่งเสริมความมั่นคงให้กับพลเมือง ซึ่งต้องปฏิบัติตามอริยมรรค 8 คือ ความเห็นชอบ ความดำริชอบ เจรจาชอบ ทำงานชอบ เลี้ยงชีพชอบ มีความเพียรชอบ ระลึกชอบและตั้งใจชอบ นาถกรณกรรม 10 คือเป็นธรรมมีอุปการะมาก เพราะเป็นกำลังหนุนในการบำเพ็ญ คุณธรรมต่างๆ ยังประโยชน์แก่ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้สำเร็จได้อย่างกว้างขวาง อัตถะ 3 เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน ซึ่งผู้ใดปฏิบัติตามหลักธรรมนี้ผู้นั้นย่อมได้รับประโยชน์ในปัจจุบัน คุณธรรม 3 เป็นผู้มีความเคารพซึ่งกันและกัน เป็นผู้มี เคารพในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สังคหวัตถุ 4 เป็นธรรมเป็นที่ตั้งแห่งการสงเคราะห์กัน และธรรมเป็น เครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน เป็นหลักการครองใจคน หลักยึดเหนี่ยวใจกันไว้ อิทธิบาท 4 เป็นแนวทางการเรียน การ ทำงาน ให้ประสบความส าเร็จที่พระพุทธองค์ได้ทรงสดับไว้อย่างแยบคลาย โดยการมีใจรักและศรัทธาในสิ่งที่ทำ เมื่อศรัทธาจะนำมาซึ่งมุ่งมั่นทำทุกอย่างให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนศรัทธา พรหมวิหาร 4 เป็นคุณธรรมผู้บริหารที่มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น รัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมความมั่นคงของพลเมืองคือ ความต้องการที่จำเป็นลำดับแรกทางด้าน ร่างกาย เช่น ความต้องการอาหาร น้ า อากาศ ที่อยู่อาศัย เพื่อให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ และความต้องการคามปลอดภัยใน ชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเป็นความมั่งคงของพลเมืองในรัฐ และความสามารถของรัฐในการให้สวัสดิการแก่ประชาชนและ สังคม ถ้ารัฐสามารถจัดสวัสดิการสังคมให้แก่ประชาชนได้มาก บทบาทขององค์การประชาสังคมก็จะมีน้อยลง โดย ภาวะผู้นำเป็นกระบวนการที่ผู้นำใช้อิทธิพลหรืออำนาจที่มีอยู่ในการชักน าหรือโน้มน้าวให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาภายใน องค์การหรือกลุ่มของตนในสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้สมาชิกในกลุ่มได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเปูาหมายของกลุ่มหรือองค์การ การเป็นพลเมืองดีของสังคม ต้องตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ ที่จะต้องปฏิบัติ และมุ่งมั่นเพื่อให้บรรลุเปูาหมาย ด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ สอดคล้องกับหลักธรรม วัฒนธรรมประเพณี และรัฐธรรมนูญที่กำ าหนดไว้ รวมทั้ง บทบาททางสังคมที่ตนด ารงอยู่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และได้ประสิทธิผลทั้งในส่วนตนและสังคม เมื่อสามารถ ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ย่อมเกิดความภาคภูมิใจและเกิดผลดีทั้งต่อตนเองและสังคม ด้วยการเป็นพลเมืองดีที่เคารพกฎหมาย เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น มีความกระตือรือร้นที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของชุมชน และสังคม มีคุณธรรมและจริยธรรมเป็นหลักในการดำเนินชีวิตอย่างผาสุก สำหรับการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ได้กำหนดการจัดสวัสดิการสังคมขององค์การสวัสดิการสังคมให้แก่ผู้รับบริการสวัสดิการสังคม ให้จัดตามความจำเป็น และเหมาะสม เช่น การบริการทางสังคม การศึกษา สุขภาพอนามัย ที่อยู่อาศัย การฝึกอาชีพ การประกอบอาชีพ นันทนาการและกระบวนการยุติธรรม การส่งเสริมการพัฒนา การสงเคราะห์ การคุ้มครอง การปูองกันและการแก้ไข การจัดสวัสดิการสาธารณะตามหลักพุทธธรรม เป็นการสงเคราะห์แบบให้เปล่าสำหรับผู้ที่ต้องการความ ช่วยเหลือ อันเนื่องมาจากช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ด้อยโอกาสทางสังคมและไร้ที่พึ่ง ซึ่งเป็นภารกิจส าคัญของพระสังฆาธิ การ 2 ใน 6 ด้าน คือ การสาธารณะสงเคราะห์ การจัดสวัสดิการสาธารณะ โดยหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องและ เหมาะสมคือ สังคหวัตถุ 4 และพรหมวิหาร 4 และสาราณียธรรม 6 ซึ่งเป็นจัดสวัสดิการสาธารณะตามหลักพุทธธรรม การจัดสวัสดิการต้องให้ครอบคลุมให้ประชาชนทุกหมู่ทุกระดับที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ เพราะสวัสดิการได้มา จากเงินภาษีของประชาชน ตามหลักรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสาธารณะเป็นการใช้อำนาจในจัดสรรสิ่งที่มี คุณค่าเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับประชาชน ที่มีจุดมุ่งหมายที่ให้มีความอยู่ดีกินดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน ซึ่งการ จัดสวัสดิการสาธารณะที่มีระบบการจัดบริการทางสังคมเพื่อปูองกัน การแก้ไขปัญหา การพัฒนา และการส่งเสริม ความมั่นคงทางสังคม เพื่อตอบสนองความจ าเป็นขั้นพื้นฐานของประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและพึ่งตนเองได้อย่าง ทั่วถึงและประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดสวัสดิการสังคมทุกระดับ สำหรับการส่งเสริมความมั่นคงของพลเมืองในรัฐตามพุทธธรรม ใช้สัปปุริสธรรม 7 เพื่อน ามาปรับใช้ คือการ รู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณตน รู้จักกาลเวลา รู้จักชุมชนสังคม และรู้จักเลือกบุคคลให้เหมาะสม และประ ปฏิบัติตามศีล 5 คือไม่ฆ่าสัตว์ทั้งปวง ไม่ลักขโมยทรัพย์ ไม่ผิดประเวณี ไม่พูดเท็จและไม่ดื่มสิ่งเสพติด โดยทั้ง 5 ข้อจะนำมาซึ่งความมั่นคงของพลเมือง การส่งเสริมความมั่นคงของพลเมือง ควรส่งเสริมในด้านที่อยู่อาศัย การรักษาสุขภาพ มีอาหารบริโภค มีการศึกษาที่ดี มีงานทำและมีรายได้พอเลี้ยงตนเองและครอบครัว มีกิจกรรมส่งเสริมให้ครอบครัว และชุมชนเข้มแข็ง ยึดมั่นในศาสนาและวัฒนธรรมอย่างมั่นคง มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีสิทธิและได้รับความเป็นธรรม มีส่วนในการตัดสินใจ การเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองและมีจิตสาธารณะในการทำงานเพื่อสังคม ส่วนรวม ความเป็นอยู่ในสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีและรู้คุณค่าของทรัพยากร พร้อมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ พลังงาน และเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสร้างความปลอดภัยสร้างพลังสังคมเพื่อสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้นกับพลเมือง

เอกสารอ้างอิง

1. มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจฬุาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
2. พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2549). พุทธวิธีการบริการ. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
3. พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). (2543). ทศวรรษธรรมทัศน์พระปิฎกหมวดศึกษาศาสตร์.กรุงเทพมหานคร : ธรรมสภา.
4. พระมหาสมบูรณ์ วุฑฺฒิกโร. (2549). “ประเด็นโต้แย้งว่าด้วยพระพุทธศาสนาเพื่อสังคม”. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์. ปีที่ 2 ฉบับที่ 4 ตุลาคม – ธันวาคม 2549.
5. ธีรยุทธ บุญมี. (2551). ธรรมรัฐแห่งชาติยุทธศาสตร์กู้หายนะประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร : ชมรมนักธุรกิจเพื่อ ประชาธิปไตย.
6. ประเวศ วะสี. (2541). การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี. กรุงเทพมหานคร : สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน.
7. วิรุฬห์ศักย์ แนวภูวนนท์. (2556). “ศึกษาการจัดสวัสดิการชุมชนของวัดพระธาตุช่อแฮ”. สาขาวิชาพระพุทธศาสนา วิทยาเขตแพร่ มหาวิทยาลยัมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
8. สุดจิต นิมิตกุล. (2543). การบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดีการปกครองที่ดี (Good Governance). กรุงเทพมหานคร : บริษัทพัธการพิมพ์.
9. อภินันท์ จันตะนี. (2557). ระเบียบวิธีวิจัยทางการจัดการชั้นสูง. กรุงเทพมหานคร : จรัญสนิทวงศ์การพิมพ์

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-11-30

รูปแบบการอ้างอิง

จันตะนี ร. ด. (2018). พุทธรัฐศาสตร์สำหรับการส่งเสริมความมั่นคงแห่งพลเมือง. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 10(2), 287–296. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/ptujournal/article/view/178090