ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้คุณลักษณะงาน บุคลิกภาพแบบแสดงตัว ความเชื่ออำนาจควบคุมตนเอง กับสุขภาวะทางจิตของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลปิยะเวท
คำสำคัญ:
การรับรู้คุณลักษณะงาน, บุคลิกภาพแบบแสดงตัว, ความเชื่ออำนาจควบคุมตนเอง, สุขภาวะทางจิตบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการรับรู้คุณลักษณะงาน บุคลิกภาพแบบแสดงตัว ความเชื่ออำนาจควบคุมตนเอง และสุขภาวะทางจิตของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลปิยะเวท 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้คุณลักษณะงาน บุคลิกภาพแบบแสดงตัว ความเชื่ออำนาจควบคุมตนเอง กับสุขภาวะทางจิตของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลปิยะเวท และ
3) ศึกษาสมการทำนายสุขภาวะทางจิตของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลปิยะเวท โดยมี การรับรู้คุณลักษณะงาน บุคลิกภาพแบบแสดงตัว และความเชื่ออำนาจควบคุมตนเอง เป็นตัวทำนาย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลปิยะเวท จำนวน 110 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่แบบสอบถามเกี่ยวกับแบบสอบถามข้อมูลทั่วไป แบบสอบถามวัดสุขภาวะทางจิต แบบสอบถามการรับรู้คุณลักษณะงาน แบบสอบถามวัดบุคลิกภาพแบบแสดงตัว แบบสอบถามวัดความเชื่ออำนาจควบคุมตนเอง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ โดยวิธีการเพิ่มตัวแปร ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) การรับรู้คุณลักษณะงาน บุคลิกภาพแบบแสดงตัว ความเชื่ออำนาจควบคุมตนเอง มีความสัมพันธ์กับ สุขภาวะทางจิตของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลปิยะเวท อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .052) การรับรู้คุณลักษณะงาน เป็นตัวแปรเดียวที่สามารถทำนายสุขภาวะทางจิตของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลปิยะเวท อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยสามารถร่วมกันทำนายสุขภาวะทางจิตได้ร้อยละ 24.90
เอกสารอ้างอิง
สถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล. (2547). รายงานประจำปี 2547. นนทบุรี: ผู้แต่ง.
สุภาพร เหมือนละม้าย. (2555). การรับรู้ความสามารถของตนเอง คุณลักษณะงาน บรรยากาศองค์การที่ส่งผลต่อความผูกพันในงานของพยาบาลวิชาชีพของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
หัทยา ศรีวงษ์. (2554). ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะงาน ความสามารถในการทำงาน และบรรยากาศองค์การกับความสุขในการทำงานของพยาบาลหน่วยงานอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน โรงพยาบาลชุมชนในเขตภาคกลาง. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา.
Compton, W. C. (2005). Introduction to positive psychology. Belmont, CA: Wadsworth.
Costa, P. T., Jr., & McCrae, R. R. (2000). Revised NEO personality (NEO-PI-R) and NEO Five-Factor for Inventory (NEO-FFI) professional manual. Odessa, FL: Psychological Assessment Resources.
Diener, E., Emmons, R. A., Larsen, R. J., & Griffin, S. (1985). The satisfaction with life scale. Journal of Personality Assessment, 49, 71-75.
Furnham, A., & Cheng, H. (2003). Personality, peer relation, and self-confidence as predictor of happiness and loneliness. Journal of Adolescence, 25, 327-339.
Glazer, S., Stetz, T., & Izso, L. (2004). Effects of personality on subjective job stress: A cultural analysis. Personality and Individual Differences, 37, 645-658.
Hackman, J. R., & Oldham, G. R. (1980). Work redesign. Boston: Addison-Wesley.
Ryff, C. D., & Singer, B. H. (1996). Psychological well-being: Meaning, measurement, and implications for psychotherapy research. Psychother Psychosom, 65(1), 14-23.
Wright, T. A., & Bonett, D. G. (2007). Job satisfaction and psychological well-being as nonadditive predictors of workplace turnover. Journal of Management, 33(2), 141-160.
Xie, J. L., (1992). Moderating and mediating effects in job design. Journal of Management, 18(4), 657-676.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว