การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีคุณภาพ: ปัจจัยที่มีอิทธิพล ต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และบทบาทของพยาบาลผดุงครรภ์

ผู้แต่ง

  • พรณิศา แสนบุญส่ง

บทคัดย่อ

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีคุณภาพ หมายถึง มารดาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนานอย่างน้อย 6 เดือน โดยไม่ได้รับน้้าหรืออาหารเสริมใดๆ ประเทศไทยมีนโยบายส่งเสริมให้มารดาเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือนก็ยังต่้ากว่าเป้าหมาย ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยต่างๆทั้งทางด้านมารดา ด้านทารก ด้านบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการสนับสนุนจากครอบครัว และด้านการสนับสนุนจากสังคม ที่มีอิทธิพลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ดังนั้นในฐานะของพยาบาลผดุงครรภ์จึงจ้าเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยค้านึงถึงปัจจัยต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และควรมีส่วนร่วมกับมารดาและครอบครัวในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่ในระยะก่อนการตั้งครรภ์ ระยะตั้งครรภ์ ระยะคลอด ระยะหลังคลอด และเมื่อมารดากลับบ้านหรือต้องไปทำงาน เพื่อส่งเสริมให้มารดาสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้อย่างมีคุณภาพ

เอกสารอ้างอิง

1.ขนิษฐา เมฆกมล และคณะ. (2556). “ผลของการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่โดยเน้นครอบครัวเป็นศูนย์กลางต่อความรู้ ทัศนคติของมารดาหลังคลอดและครอบครัว และอัตรการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน,” วารสารวิทยาลัยพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี, ปีที่ 24 (ฉบับที่ 2) : หน้า 47 59.
2.ขวัญใจ รุ่งเรือง และกัญญดา ประจุศิลป. (2550). “ผลของการใช้โปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความสามารถต่อพฤติกรรมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของมารดาที่ท้างานนอกบ้าน,” วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ปีที่ 19 (ฉบับที่ 3): หน้า 126-137.
3.จิรนันท์ วีรกุล. (2559). “ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อความส้าเร็จในการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือนในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร. นเรศวรวิจัย ครั้งที่ 12,” วิจัยและนวัตกรรมกับการพัฒนาประเทศ. (หน้า 746--757). พิษณุโลก.
4.ญาณิศา เถื่อนเจริญ และกัญญดา ประจุศิลป. (2551). “ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความสามารถของมารดาร่วมกับการสนับสนุนของสามี ต่อการปฏิบัติการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่,” วารสารพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ปีที่ 20 (ฉบับที่ 3) : หน้า 55-68.
5.ธัญลักษณ์ บรรลิขิตกุล. (2556). “การส่งเสริมมารดาที่ท้างานนอกบ้านให้สามารถเลี้ยงลูกด้วยนมมารดาต่อเนื่องได้,” วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย, ปีที่ 6 (ฉบับที่ 2) : 1--14.
6.ธิติมา เงินมาก. (2548). รายงานการวิจัยอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 4 และ 6 เดือนหลังคลอดและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในมารดาที่คลอดครบกาหนดในโรงพยาบาลรามาธิบดี. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลรามาธิบดี.
7.นิตยา สินสุกใส. (2555). ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. ใน กรรณิการ์ วิจิตรสุคนธ์, พรรณรัตน์ แสงเพิ่ม, นันทิยา วัฒายุ, สุพินดา เรืองจิรัษเฐียร, และ สุดาภรณ์ พยัคฆเรือง (บรรณาธิการ). การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. (หน้า 11--20). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้ส่วนจ้ากัด พรี--วัน.
8.ประชุมพร สุวรรณรัตน์. (2558). การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในห้องคลอดตามการรับรู้ของพยาบาลวิชาชีพและมารดาหลังคลอด. วิทยานิพนธ์พยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการผดุงครรภ์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, สงขลา.
9.พรนภา ตั้งสุขสันต์. (2554). “การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในสตรีตั้งครรภ์,” วารสารพยาบาลสาธารณสุข. ปีที่ 25 (ฉบับที่ 3) : หน้า 103--119.
10.พรพิมล อาภาสสกุล. (2559). “ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของสตรีไทย,”วารสารพยาบาลสาธารณสุข. ปีที่ 30 (ฉบับที่ 2) : หน้า 133--146.
11.สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2556). รายงานฉบับสมบูรณ์การสารวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2555. Retrieved from
http://www.unicef.org/thailand/57--05--010--MICS_TH.pdf
12.สุดาภรณ์ พยัคฆเรือง. (2555). “ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่,” ใน กรรณิการ์ วิจิตรสุคนธ์, พรรณรัตน์ แสงเพิ่ม, นันทิยา วัฒายุ, สุพินดา เรืองจิรัษเฐียร, และ สุดาภรณ์ พยัคฆเรือง (บรรณาธิการ). การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่. (หน้า 21--33). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้ส่วนจ้ากัด พรี--วัน.
13.สุดาภรณ์ พยัคฆเรือง และคณะ. (2559). “ปัญหาการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ระยะแรกหลังคลอด: ประสบการณ์ของมารดา,” วารสารพยาบาลศาสตร์,
ปีที่ 34 (ฉบับที่ 3) : หน้า 30--40.
14.Apartsakun, P. (2015). Thai Women’s Breastfeeding Experiences and Support Needs. Unpublished doctoral dissertation. Southamton University, Southamton.
15.Chusilp, K., Wittayasooporn, J., Sangsupavanich, P., Chitjang, U., Sawasdivorn, S., Sutasworawut, U., et al. (2011). Factors and health outcomes of exclusive breastfeeding at 6 months. The 3rd National Breastfeeding Conference: Challenge to a new society. Bangkok.
16.Kaewsarn, P., & Moyle, W. (2000). Breastfeeding duration of Thai women. Aust Coll Midwives Inc, Vol.13 (No.1) : pp.21-26.
17.National Statistical Office Ministry of Information and Communication Technology. (2006). Monitoring the situation of children and women: Thailand Multiple Indicator Cluster Survey December 2005 – February 2006. Retrieved from http://www.unicef.org/thailand/MICS_Final_Report2.pdf
19.Tangsuksan, P., & Ratinthorn, A. (2011). Experiences and contextual factors related to exclusive breastfeeding in full-time working mothers. Journal of Nursing Science, Vol.29 (No.3) : pp.52-63.
20.Thai Breastfeeding Organization. (2007). Marketing and Advertisement of Breastmilk Substitutes. Bangkok: Thai Breastfeeding Organization.
21.World Health Organization. (2008). Evidence for the ten steps to successful breastfeeding. Retrieved from http://apps.who.int/iris/bitstream/10665/43633/1/9241591544_eng.pdf.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2016-11-30

รูปแบบการอ้างอิง

แสนบุญส่ง พ. (2016). การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างมีคุณภาพ: ปัจจัยที่มีอิทธิพล ต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และบทบาทของพยาบาลผดุงครรภ์. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยปทุมธานี, 8(2), 244–256. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/ptujournal/article/view/201618