ปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
คำสำคัญ:
ปัจจัยจูงใจ, ปัจจัยค้ำจุน, ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน, พนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2) ศึกษาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ 3) วิเคราะห์ปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และ 4) ตรวจสอบปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้พนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ การวิจัยนี้วิจัยแบบผสมวิธี กรอบแนวคิดของงานวิจัยนี้ได้สร้างขึ้นโดยใช้แนวคิดทฤษฎีปัจจัยแรงจูงใจกับปัจจัยค้ำจุนของ Frederick Herzberg และทฤษฎีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของ Granholm ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ พนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ปฏิบัติงานฝ่ายงานต่าง ๆ ในสำนักงานใหญ่ และพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่ปฏิบัติงานในสาขาที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน 2,880 คน นำมาคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างของทาโร่ ยามาเน่ จำนวน 400 คน ใช้การสุ่มแบบง่าย สัมภาษณ์ผู้อำนวยการฝ่ายขึ้นไปในกลุ่มงานต่าง ๆ จำนวน 8 คนเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือได้แก่ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ไปหาค่าความเชื่อมั่นได้ .95 และนำข้อมูลคุณภาพมาวิเคราะห์สรุปความตามตัวแปร สถิติที่ใช้ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ สถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับปัจจัยจูงใจและปัจจัยค้ำจุนที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์โดยรวมอยู่ในระดับปานกลางทั้ง 2 ปัจจัย เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับตามระดับของปัจจัย คือ ปัจจัยจูงใจ ได้แก่ ด้านลักษณะงานที่ปฏิบัติ ด้านการยอมรับนับถือ ด้านความต้องการความก้าวหน้า ด้านความสำเร็จในงาน และ ด้านความรับผิดชอบในงาน ในส่วนของปัจจัยค้ำจุน ได้แก่ ด้านค่าตอบแทน ด้านสวัสดิการ ด้านความมั่นคงในงาน ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ด้านการนิเทศงาน ด้านนโยบายและการบริหาร และ สภาพการทำงาน 2) ระดับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์โดยรวมพบว่าอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับมาไปหาน้อยได้แก่ ด้านปริมาณงาน ด้านคุณภาพงาน ด้านความรู้และทักษะในงาน ด้านการสื่อสารยุคใหม่ และด้านการควบคุมดูแล ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และด้านทัศนคติ 3) ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่าปัจจัยแรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมากสุด 2 ด้านได้แก่ ความสำเร็จในการทำงานและความก้าวหน้า คิดเป็นร้อยละ 51.9 และ 50.3 ปัจจัยค้ำจุนที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานมากสุด 2 ด้านได้แก่ ด้านการสื่อสารยุคใหม่ และด้านปริมาณงาน คิดเป็นร้อยละ 55.6 และ 52.5 โดยรวมปัจจัยแรงจูงใจกับปัจจัยค้ำจุนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในระดับปานกลาง 4 ) ปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้พนักงานธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่ จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารทั้ง 8 ท่านมีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันคือ นำค่านิยมของธนาคาร หรือ GIVE+4 ที่ประกอบไปด้วย การยึดหมั่นในหลักธรรมาภิบาล การมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม การบริการที่เป็นเลิศ การพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง การมุ่งเน้นความสำเร็จในงาน ความเป็นมืออาชีพ และ ความรวดเร็วในการทำงาน เข้ามาช่วยในการแก้ปัญหาในการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เอกสารอ้างอิง
เกียรติคุณ วรกุล. (2545). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ และผลการปฏิบัติงานของหัวหน้าระดับต้น ในโรงงานอุตสาหกรรมประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรม. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
เกรียงศักดิ์ เขียวยิ่ง. (2550). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพมหานคร : เอ็กซเปอร์เน็ท.
ชลดา อักษรศิริวิทยา. (2559). ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานฝ่ายการเดินรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ. กรุงเทพมหานคร. สารนิพนธ์ปริญญาศิลปะศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารจัดการองค์การ. มหาวิทยาลัยเกริก.
ธนาคารอาคารสงเคราะห์. (2562). [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก : http://www.ghb.co.th.
ธีระชัย ไชยเมือง. (2557). ปัจจัยที่มีส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานระดับปฏิบัติการ โรงแรมอิสตินแกรนด์สาทร. การค้นคว้าอิสระปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต.
นวารา นาคเวก. (2555). การศึกษาสถานภาพของพนักงานราชการกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ปวีณรัตน์ สิงหภิวัฒน์. (2556). แรงจูงใจทีมีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของ บุคลากรในสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดลําปาง. การค้นคว้าอิสระปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเนชั่น.
พัชรีญา วงศ์สุวรรศา. (2557). ปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานระดับชั้นปฏิบัติการของสถานีโทรทัศน์ มหาวิทยาลัย U Channel. การค้นคว้าอิสระปริญญานิเทศศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต.
วัชระ เลิศพงษ์วรพันธุ์. (2558). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานฝ่ายบริการบุคลากรของบริษัทสายการบินแห่งหนึ่ง. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2545). องค์การและการจัดการ. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา.
สมพงศ์ เกษมสิน. (2550). การบริหาร. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช.
สิทธิ์ ธีรสรณ์. (2550). แนวคิดพื้นฐานการวิจัย. กรุงเทพมหานคร : พริ้นท์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุพาณี สฤษฎ์วานิช. (2549). พฤติกรรมองค์การสมัยใหม่ : แนวคิดและทฤษฎี. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Granholm, A. R. 1988. Human Resource Director’s Portfolio of Personnel Forms, Records, and Reports. New Jersey : Prentice-Hall, Inc.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610.
Herzberg, Frederick. (1959). The Motivation of Work. New York : John Wiley & Sons.
Yamane, T. (1973). Statistics : An Introductory Analysis. (3rd) New York : Harper and Row.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว