ประสบการณ์การมีชีวิตยืนยาวของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
คำสำคัญ:
ประสบการณ์, เอชไอวีบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสบการณ์การมีชีวิตยืนยาวของผู้ติดเชื้อเอชไอวี กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี จำนวน 12 คน คัดเลือกผู้ให้ข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจง โดยใช้การคัดเลือกแบบสายใยเชื่อมโยง เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ร่วมกับการสังเกตและบันทึกภาคสนาม นำข้อมูลที่ได้ทั้งหมดมาวิเคราะห์ข้อมูลตามวิธีการของแวนมาเนน คือ วงเวียนการตีความ ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การให้ความสนใจกับธรรมชาติประสบการณ์ของชีวิตที่ผ่านมา 2) การสำรวจประสบการณ์ที่เกิดขึ้นขณะที่มีชีวิตอยู่ 3) การสะท้อนเพื่อนำไปสู่ประเด็นหลัก และ 4) การบรรยายปรากฏการณ์ผ่านการเขียนและการทบทวนเรื่องราวที่เขียน
ผลการวิจัย พบว่า ประสบการณ์การมีชีวิตยืนยาวของผู้ติดเชื้อเอชไอวี แบ่งออกเป็น 5 ประเด็น ได้แก่ 1) ความรู้สึกเมื่อรู้ว่าเป็นโรค 2) ได้กำลังใจดี มีจิตใจที่เข้มแข็ง 3) มีความรู้เกี่ยวกับโรคอย่างถูกต้อง 4) ดูแลตนเองให้มีสุขภาพดี และ 5) เข้าร่วมชมรม/กิจกรรมกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์
เอกสารอ้างอิง
กรณิการ์ วีระกูล อารยา ประเสริฐชัย และสุรเดช ประดิษฐบาทุกา. (2555). “ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมความร่วมมือในการรักษาของผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ผู้ป่วยเอดส์ในโครงการยาต้านไวรัสเอดส์ โรงพยาบาลทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร”. การประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 2 นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. หน้า 1-14.
ประเวศ วะสี. (2543). “บนเส้นทางชีวิต: สุขภาวะทางจิต สุขภาวะทางจิตวิญญาณ”. หมอชาวบ้าน. ปีที่ 22 ฉบับที่ 256. (สิงหาคม). หน้า 41-46.
ปรีชา มนทกานติกุล. (2555). “โรคติดเชื้อเอชไอวีและโรคเอดส์. ใน ปรีชา มนทกานติกุล, ปวีณา สนธิสมบัติ, สุทธิพร ภัทรชยากุล, และชาญกิจ พุฒิเลอพงศ์ (บรรณาธิการ)” คู่มือสำหรับเภสัชกร การดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์. กรุงเทพมหานคร : สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย).
พุทธวรรณ ศิวเวทพิกุล ประนอม โอทกานนท์ จรรจา สันตยากร และ สำราญ มีแจ้ง. (2551). “พฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ที่ได้รับยาต้านไวรัส”. วารสารพยาบาลศาสตร ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร. ปีที่ 2 ฉบับที่ 1. (มกราคม – มิถุนายน). หน้า 40-51.
ฟูซียะห์ หะยี และสุไฮดาร์ แวเตะ. (2557). “การดูแลสุขภาพตนเองในการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์ในสามจังหวัดชายแดนใต้”. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. ปีที่ 6 ฉบับที่ 3. (กันยายน–ธันวาคม). หน้า 1-12.
ศรัณรัตน์ ระหา และวงศา เลาหศิริวงศ์. (2554). “การประเมินผลการพัฒนาระบบการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์อย่าง ครบถ้วนและต่อเนื่องในชุมชน ตำบลนาทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม”. วารสารวิจัย มข. (บศ.). ปีที่ 11 ฉบับที่ 1. (มกราคม – มีนาคม).หน้า 71-82.
ยุทธชัย ไชยสิทธิ์ และคนอื่น ๆ. (2556). วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. ปีที่ 5 ฉบับที่ 3. (กันยายน–ธันวาคม). หน้า 13 – 24.
สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2558). สถานการณ์เอดส์ระดับโลก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก http://www.boe.moph.go.th/report.php?cat=19 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563
สมภพ เรืองตระกูล. (2548). โรคเอดส์อาการทางจิตเวชและการรักษา. กรุงเทพมหานคร : เรือนแก้วการพิมพ์.
อารยา พินทุเวหน พูลสุข เจนพานิชย์ วิสุทธิพันธ์ และขนิตฐา หาญประสิทธิ์คำ. (2559). “ผลการรับรู้ภาระในการดูแลตนเองของผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์”. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข.ปีที่ 25 ฉบับที่ 2. (พฤษภาคม-สิงหาคม). หน้า 144-156.
Allen, J. R., & Curran, J. W. (1998). “Prevention of AIDS and HIV infection: Needs and priorities for epidemiologic research”. American Journal of Public Health. Vol. 78 No.4. pp. 381-386.
Hubbard, P., & Muhlenkamp, A. F. (1984). “The relationship between social support and self-care practice”. Nursing Research. Vol.33. pp. 266-269.
Johnson, L. F., Mossong, J., Dorrington, R. E., Schomaker, M., Hoffmann, C. J., Keiser, O., Boulle, A. (2013). “Life expectancies of South African adults starting antiretroviral treatment: collaborative analysis of cohort studies”. PLoS Med. Vol.10 No.4. pp. 1-11. doi: 10.1371/journal.pmed.1001418
Manen V. (1990). Researching lived experience. Canada: The Althouse Press.
May, M. T., Gompels, M., Delpech, V., Porter, K., Orkin, C., Kegg, S., Sabin, C. (2014). “Impact onlife expectancy of HIV-1 positive individuals of CD4+ cell count and viral load response to antiretroviral therapy”. Aids. Vol. 28 No.8. pp.1193-1202. doi: 10.1097/qad.0000000000000243.
Padilla, G.V., & Grant, M.M. (1985). “Quality of life as a cancer nursing outcome variable”. Advances in Nursing Science. Vol. 8 No. 1. pp. 45 - 60.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว