ผลของโปรแกรมการให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคโควิด-19 ของผู้สูงอายุ ในจังหวัดปทุมธานี
คำสำคัญ:
ความรู้, พฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรค, โรคโควิด–19, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของโปรแกรมการให้ความรู้ต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคโควิด 19 ของผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้สูงอายุตำบลบ้านกระแชง จังหวัดปทุมธานี จำนวน 30 คน เก็บข้อมูลระหว่างเดือน สิงหาคม ถึงตุลาคม 2563 เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงตามคุณสมบัติที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ข้อมูลส่วนบุคคล 2) โปแกรมการให้ความรู้ 3) แบบสอบถามความรู้ในการป้องกันโรค และ 4) แบบสอบถามพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคโควิด- 19 ตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา โดยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน มีค่าเท่ากับ 1.00, .90 และ 1.00 ตามลำดับ และวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความรู้ มีค่า KR – 20 เท่ากับ .73 และพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคโควิด 19 มีค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาค เท่ากับ .90 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1) พฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคโควิด 19 ก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรม พบว่า ผู้สูงอายุมีค่าคะแนนเฉลี่ยหลังได้รับโปรแกรมสูงกว่าก่อนได้รับโปรแกรม ( หลัง =3.65, S.D.=.16, ก่อน=3.23, S.D.=.99) 2) คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการดูแลตนเองในการป้องกันโรคโควิด 19 ของผู้สูงอายุก่อนและหลังได้รับโปรแกรมมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05
ดังนั้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อป้องกันโรคโควิด -19 ซึ่งเป็นเรื่องใหม่จึงมีความสำคัญเพื่อการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กิตติพร เนาว์สุวรรณ นภชา สิงห์วีรธรรม. (2563). “ความสำเร็จในการดำเนินงานควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในชุมชนของอาสามัครสาธารณะสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในประเทศไทย”. วารสารสถาบันบำราศนราดูร. ปีที่ 14 ฉบับที่ 2. (พฤษภาคม – สิงหาคม). หน้า 92-103.
คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ. (2553). แผนผู้สูงอายุแห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2545-2564).กรุงเทพมหานคร : เทพเพ็ญวานิสย์.
ธานี กล่อมใจ จรรยา แก้วใจบุญ และทักษิกา ชัชวรัตน์. (2563). ความรู้และพฤติกรรมของประชาชนเรื่องการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019.วารสารการพยาบาลการสาธารณสุขและการศึกษา. ปีที่ 21 ฉบับที่ 2. (พฤษภาคม – สิงหาคม). หน้า 29-39.
นฤนาท ยืนยง และวลัยนารี พรมลา. (2560). “โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุชาวมอญ จังหวัดปทุมธานี”. วารสารสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ. ปีที่ 6 ฉบับที่ 2. (กรกฎาคม – ธันวาคม).หน้า 20-29.
นภชา สิงห์วีรธรรม และคนอื่น ๆ. (2563). “การรับรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของทันตาภิบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข”. วารสารสถาบันบำราศนราดูร. ปีที่ 14 ฉบับที่ 2.หน้า 104-115.
วลัยนารี พรมลา และจีระวรรณ์ อุคคกิมาพันธ์. (2561). “ผลของโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุในจังหวัดปทุมธานี”. วารสารวิชาการสถาบันวิทยาการจัดการแห่งแปซิฟิค. ปีที่ 4 ฉบับที่ 2. (กรกฎาคม – ธันวาคม). หน้า 59-67.
วีระศักดิ์ เมืองไพศาล. (2560). พฤฒาวิทยาและเวชศาสตร์ผู้สูงอายุสำหรับการดูแลผู้ป่วยผู้สูงอายุขั้นต้น. กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภาพพิมพ์.
ศิริสุข นาคะเสนีย์. (2561). พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุในกรุงเทพมหานคร. วารสารวิจัยรำไพพรรณี. ปีที่ 12 ฉบับที่ 1. (มกราคม – เมษายน). หน้า 39-48.
สำนักงานศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.). (2563).. รายงานสถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://www.moicovid.com/06/06/2020/uncategorized/1276/ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2563 .
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2016). การดูแลระยะยาว สาธารณสุขสำหรับผู้ป่วยซึมเศร้าผู้สูงอายุ (การดูแลระยะยาว) ด้านระบบความปลอดภัยสุขภาพแห่งชาติ. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.
Bloom, B. S. (1979). Taxonomy of Educational Objectives. Handbook 1 Cognitive Domaim. London: David McKay Company.
Orem, D.E. (2001). Nursing: Concepts of Practice. (6th ed.) St. Louis: Mosby.
Pender, NJ., Murdaugh, CL.,Parsons, MA. (2006). Health promotion in nursing practice. (5th ed.) Jurong, Singapore: Pearson.
World Health Organization. (2020). Clinical management of severe acute respiratory infection (SARI) when COVID-19 disease is suspected. Interim guidance.
Wu Z, & McGoogan JM. (2020). “Characteristics of and important lessons from the coronavirus disease 2019 (COVID-19) outbreak in China: Summary of a report of 72,314 cases from the Chinese Center for Disease Control and Prevention”. The Journal of the American Medical Association. Vol. 323 No.13. 1239-1242.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว