ปัญหาการควบคุมตัวผู้ถูกจับในคดียาเสพติด
คำสำคัญ:
การคุ้มครองสิทธิ , การควบคุมตัวผู้ถูกจับคดียาเสพติด , การใช้อำนาจของเจ้า พนักงานบทคัดย่อ
วิจัยเรื่อง “ปัญหาการควบคุมตัวผู้ถูกจับในคดียาเสพติด” เป็นการศึกษาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้ถูกจับของประเทศไทย ศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานในการปฏิบัติต่อผู้ถูกจับในคดียาเสพติด ตลอดจนแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และแก้ไข เพิ่มเติมกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
จากการศึกษาวิจัยพบว่า เจ้าพนักงานมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและมีอำนาจควบคุมผู้ถูกจับที่กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อทำการสอบสวนได้เป็นเวลาไม่เกินสามวัน และไม่ปรากฏว่ามีกระบวนการตรวจสอบการใช้อำนาจดังกล่าว ถือว่าไม่สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (Universal Declaration of Human Rights) ข้อ 9 วรรคสามที่กำหนดให้ “บุคคลที่ถูกจับกุม หรือควบคุมตัวในคดีอาญา จะต้องถูกนำตัวไปศาล หรือเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยพลัน เพื่อได้รับการพิจารณาคดีภายในเวลาอันควร หรือมีการปล่อยตัว” อีกทั้งในการควบคุมตัวผู้ถูกจับโดยไม่มีความจำเป็นและสมควรนั้นถือว่าผิดหลักการการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล หลักการ Habeas Corpus
ผู้ศึกษาวิจัยมีข้อเสนอแนะดังนี้ ควรมีการแก้ไขกฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานในการควบคุมตัวผู้ถูกจับในคดียาเสพติด เพื่อให้มีความสอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (Universal Declaration of Human Rights) ในขณะเดียวกันจะต้องมีระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจดังกล่าวให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ถูกจับในคดียาเสพติดให้เป็นไปตามหลักการดำเนินคดีอาญา
เอกสารอ้างอิง
กุลพล พลวัน. (2538). พัฒนาการสิทธิมนุษยชน. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์วิญญูชน.
คณิต ณ นคร. (2548). นิติธรรมอำพรางในนิติศาสตร์ไทย. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์วิญญูชน.
เชิดชู รักตะบุตร. (2561). “การคุ้มครองและจำกัดสิทธิเสรีภาพของปัจเจกบุคคลในประเทศไทย ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ข้อ 4 แห่งกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ค.ศ. 1966”. วารสารศาลรัฐธรรมนูญ. ปีที่ 20 ฉบับที่ 59 (พฤษภาคม- สิงหาคม).
เดือน บุนนาค. (2520). “การแยกอำนาจ”. วารสารนิติศาสตร์. ปีที่ 9 ฉบับที่ 3.
ธรรมนิตย์ วิชญเนตินัย. (2505). “Habeas Corpus”. ดุลพาห. ปีที่ 9 เล่มที่ 6.
บุญร่วม เทียมจันทร์ และ ศรัญญา วิชชาธรรม. (2563). รวมกฎหมายยาเสพติด และพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พร้อมหัวข้อเรื่องมาตราสำคัญ ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ THE LAW GROUP.
ปกป้อง ศรีสนิท. (2564). “สิทธิของผู้ต้องขังในกระบวนการยุติธรรม”. วารสารกฎหมายสิทธิมนุษยชน. ปีที่ 2 ฉบับที่ 1 (มกราคม-มิถุนายน).
ประธาน วัฒนพานิช. (2520). “ระบบความยุติธรรมทางอาญา : แนวความคิดเกี่ยวกับการควบคุมอาชญากรรมและกระบวนการนิติธรรม”. วารสารนิติศาสตร์. ปีที่ 9 ฉบับที่ 2. (กันยายน-พฤศจิกายน).
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519
มยุรา วิมลโลหการ. (2553). การแสวงหาพยานหลักฐานในคดียาเสพติดโดยการใช้เทคนิคการสืบสวนสอบสวนพิเศษ. วิทยานิพนธ์ปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
มานิตย์ จุมปา. (2563). กฎหมายรัฐธรรมนูญ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย.กรุงเทพมหานคร : สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล และคณะ. (2547). โครงการศึกษาวิจัยเรื่องกฎหมายด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในกระบวนการยุติธรรมที่ไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิพื้นฐานและพันธกรณีระหว่างประเทศรวมทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540. กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ.
สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุล. (2563). ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉบับอ้างอิง. (พิมพ์ครั้งที่ 21). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์วิญญูชน.
สิทธิมนุษยชน. (2564). กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก https://humanrights.mfa.go.th/th/humanrights/obligation/international-human-rights-mechanism/ICCPR.php
Herbert Packer. (1968). The Limit of the Criminal Sanction. California: Stanford University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 เมธาพร กาญจนเตชะ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารมหาวิทยาลัยปทุมธานี
ข้อความที่ปรากฎในบทความแต่ละเรื่อง เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน กองบรรณาธิการไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไป และไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว