การบริหารหลักสูตรสถานศึกษาเพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 2

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการดําเนินงานการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาของผู้บริหาร การใช้หลักสูตรสถานศึกษาของครูผู้สอนเทคโนโลยีสารสนเทศการปฏิบัติของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเปรียบเทียบการปฏิบัติของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จําแนกตามเพศ เพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลําพูน เขต 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน จํานวน 9 คน ครูผู้สอนเทคโนโลยีสารสนเทศ จํานวน 9 คน นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2559 จํานวน 113 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์และแบบสอบถามโดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที (t-test) จําแนกตามเพศ

ผลการวิจัยพบว่า 1) การดําเนินงานการบริหารหลักสูตรสถานศึกษาของผู้บริหารพบว่าผู้บริหารพัฒนาครูโดยให้ครูได้อบรมศึกษาดูงานมีการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสมจัดให้มีห้องคอมพิวเตอร์เครื่องคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทําหลักสูตรเสนอหลักสูตรต่อคณะกรรมการสถานศึกษาพิจารณาเห็นชอบและจัดทําแผนการนิเทศกํากับติดตามการใช้หลักสูตร2)การใช้หลักสูตรสถานศึกษาของครูผู้สอนเทคโนโลยีสารสนเทศ พบว่า ครูได้ศึกษาทําความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงสอนสร้างสื่อสืบค้นข้อมูลใช้สื่อการสอนจากเว็บไซต์สื่อวีดิทัศน์จากยูทูบสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านไลน์เฟซบุ๊กและวัดผลประเมินผลตามสภาพจริง 3) การปฏิบัติของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาพรวมทุกด้านอยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ย เป็นรายด้านพบว่า ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างสร้างสรรค์มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านความภาคภูมิใจในความเป็นพลเมืองอาเซียนและด้านทักษะในการสื่อสา รส่วนด้านความรู้เกี่ยวกับอาเซียนมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด 4) ผลการเปรียบเทียบการปฏิบัติของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกันมีระดับการปฏิบัติเพื่อขับเคลื่อนความเป็นประชาคมอาเซียนไม่แตกต่างกัน

Curriculum management to propel ASEAN information and communication technology of opportunity expansion school under the Lamphun Primary Educational Service Area Office 2

The purposes of this research were studying the operation of the school curriculum management, the school curriculum implementation of the information technology teachers, the practice of Matthayom 3’s students, and comparing the practice of Matthayom 3’s students by gender for propelling the ASEAN Community in information and communication technology of opportunity expansion school under Lamphun Primary Education Service Area Office 2. The studied samples were 9 school administrators, 9 information technology, and 113 Matthayom 3’s students in 2016 academic year. The research tools were the interview form and the questionnaire. The collected data were analyzed through the application of frequency, percentage, mean, standard deviation, and t-test.

The research results revealed that: 1) The school curriculum management by school administrators revealed that the school administrators supported and managed the personnel in training, studying tours, annual budgets allocation planning, computer rooms, internet network systems for school teachers, appointed the committees of curriculum construction, evaluated the school curriculum by the committees and administrators management the supervision planning, the supervision calendar, and controlled and followed the curriculum using, 2) the school curriculum implementation of the information technology teachers revealed that the school teachers understood in school curriculum, managed the learning process practically, taught the instruction media creating and the database searching, used the VDO media from websites for learning process, created and exchanged the network learning by Line and Facebook application, and the school teachers had authentic measurement and assessment, 3) the practice of Matthayom 3’s students was rated at a high level as a whole. Considering the mean score of each aspect; creative technology implementation ability, pride in ASEAN population, communicative skills, and ASEAN knowledge were in descending order, and 4) The result of comparing the practice of Matthayom 3’s students revealed that the different genders of studied samples were not different practice for propelling the ASEAN community.