การสื่อสารสุขภาพด้วยประสบการณ์และศักยภาพของนักศึกษาเพื่อ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ

Main Article Content

ณัฐนันท์ ศิริเจริญ

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อสำรวจประสบการณ์และศักยภาพของนักศึกษาสำหรับวิธีการสื่อสารสุขภาพกับผู้สูงอายุ (2) เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะประชากรและปัจจัย 3 ด้านของแบบจำลองการส่งเสริมสุขภาพกับทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลกับผู้สูงอายุ และ (3) เพื่อสรุปข้อเสนอแนะวิธีการสื่อสารสุขภาพที่สามารถช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบจำเพาะเจาะจง คือ เป็นนักศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะมนุษยศาสตร์และประยุกต์ศิลป์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รวมจำนวน 303 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล คือ แบบสอบถามปลายปิดและปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้ค่าไค-สแควร์ทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร และใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหาของ ข้อเสนอแนะเพื่อการนำไปประยุกต์ใช้ในการสื่อสารสุขภาพกับผู้สูงอายุ ผลการวิจัยพบว่าประสบการณ์และศักยภาพของนักศึกษาสำหรับวิธีการสื่อสารสุขภาพ โดยการใช้ปัจจัยด้านจุดประสงค์ในการสื่อสาร คือ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบประจำวันทั่วๆ ไปกับผู้สูงอายุมากที่สุด (ร้อยละ 39.30) วิธีการสื่อสารจะใช้พูดสนทนาโดยตรงมากที่สุด (ร้อยละ 31.40) ผลการทดสอบความสัมพันธ์ของตัวแปร พบว่า จุดประสงค์ในการสื่อสารมีความสัมพันธ์กับทักษะการสื่อสารด้วยการพูดและวิธีการสื่อสารกับสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กับทักษะการสื่อสารด้วยการอธิบายความ ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ข้อเสนอแนะของกลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาส่วนใหญ่ต้องการให้สื่อสารสุขภาพกับผู้สูงอายุด้วยความอ่อนน้อมเคารพรัก ต้องใช้ทั้งภาษาพูด ภาษาร่างกายในการแสดงออกถึงความรู้สึกรักและห่วงใยผู้สูงอายุอย่างสม่ำเสมอ

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ศิริเจริญ ณ. (2018). การสื่อสารสุขภาพด้วยประสบการณ์และศักยภาพของนักศึกษาเพื่อ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ. วารสารศรีปทุมปริทัศน์ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 17(1), 90–102. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/spurhs/article/view/113154
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. 2556. แผนการจัดระบบบริการสุขภาพ (Service Plan). นนทบุรี : กลุ่มบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.

คณะอนุกรรมการสถิติสาขาสุขภาพและคณะทำงานสถิติด้านสุขภาพ. 2557. แผนพัฒนาสถิติ สาขาสุขภาพฉบับที่ 1 พ.ศ. 2557 – 2558. นนทบุรี: กระทรวงสาธารณสุข.

แผนงานวิจัยและพัฒนาระบบสื่อสารสุขภาพสู่ประชาชนสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. 2551. การสื่อสารสุขภาพ.พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.

จุฑามณี กันกรุง, ไพลิน เขียวอินทร์, สุนารี แซ่เถา และจิตศิรินลายลักษณ์. 2557. “การศึกษาความฉลาดทางสุขภาวะของนักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.” วิทยานิพนธ์ สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.

ธีรนันท์ วรรณศิริ และสมบัติ ประทักษ์กุลวงศา. 2559.“การพัฒนาสัมพันธภาพวัยรุ่นและผู้สูงอายุในครอบครัวของชุมชนโพรงมะเดื่อ” วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่, 8(1): 100-115.

ปัทมา ว่าพัฒนวงศ์ และปราโมทย์ ประสาทกุล. 2549.ประชากรไทยในอนาคต. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.

ปาริชาต สถาปิตานนท์, กิตติ กันภัย, พัฒนพงส์ จาติเกตุและปิยะนารถ จาติเกตุ. 2546. การสื่อสารสุขภาพศักยภาพของสื่อมวลชนในการสร้างเสริมสุขภาพ.กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภูริชญา เทพศิริ. 2557. “คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในตำบลทองหลาง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก.”สารนิพนธ์หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเกริก.

สมพร โพธินาม, พิศ แสนศักดิ์, จงกล พูลสวัสดิ์, วิรัตน์ ปานศิลา,ชนิศา ปานศิลา, ชนัตถา พลอยเลื่อมแสง และคณะ.2552.“ผู้สูงอายุไทย บริบทของจังหวัดมหาสารคาม.”ศรีนครินทร์เวชสาร 2552. 24(3): 197-205.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.). 2555.ทักษะชีวิต . สืบค้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2559 .
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). 2555.การเจ็บป่วยและการตาย. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559
สุธาสินี เลิศวัชระสารกุล. 2557. 9 ทักษะที่ควรมีก่อนเรียนจบ.สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2559
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. 2559. เตรียมตัวให้พร้อมไว้...ในวัยผู้สูงอายุ (ตอนที่ 1). สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2559
Glass, A. 2007. “Understanding generational differences for competitive success”, Industrial and Commercial Training, 39(2): 98–103.
Jung, Y., Koay, J. L., Ng., J. S., Wong, G. L. C., & Lee, K. M. 2009. “Games for a better life : effects of playing wii games on the well-being of seniors in a long-term care facility.” Proceedings of the 6th Australasian Conference on Interactive Entertainment 2009. (IE 2009), Australia.
Lazarsfeld, P. & Merton, R. K. 1964. Friendship as a Social Process: A Substantive and Methodological Analysis. In M. Berger, T. Abel, & C. H. Page (Eds.), Freedom and Control in Modern Society (pp. 18-66) New York: Van Nostrand.
Nguyen Hai, T.T., Tapanainen, T., Theng, Y.L. et al. 2015. Fostering Communication between the Elderly and the Youth with Social Games. Retrieved September 17, 2016
Pender, N.J. 1987. Health Promotion in Nursing Practice. 2nd ed. Norwalk : Appleton & Lange. Shubert, T. E. 2010. “The use of commercial health video games to promote physical activity in older adults.” Annals of Long-Term Care: Clinical Care and Aging, 18(5): 27–32.
Theng, Y. L., Chua, P. H., & Pham,T.P. 2012. “Wii as entertainment and socialisation aids for the ental and social health of the elderly.” In: CSI 2012 Extended Abstracts on Human Factors in Computing Systems, pp. 691-702. ACM, May 2012.