แนวทางการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมอนุรักษ์การรำโทน - นกพิทิดของเยาวชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้เทคโนโลยีสื่อวีดิทัศน์และสื่อออนไลน์

Main Article Content

เมธาวี แก้วสนิท
กรกฎ จำเนียร

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) สังเคราะห์ข้อมูลประวัติความเป็นมา รูปแบบและลักษณะการรำโทน-นกพิทิด (2) ค้นหารูปแบบการสื่อสารและหาแนวทางผลิตสื่อวีดิทัศน์และสื่อออนไลน์การรำโทน-นกพิทิด เพื่อสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของเยาวชน ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช  และ (3) ประเมินผลการรับรู้และความคิดเห็นของผู้รับชม  กระบวนการดำเนินการวิจัยประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นการสำรวจข้อมูลเบื้องต้น ขั้นการถ่ายทอดข้อมูล ขั้นการผลิตสื่อและเผยแพร่ และขั้นการประเมินผล โดยผลการวิจัยปรากฏว่า จากการสนทนากลุ่มปราชญ์ชาวบ้าน 7 คน และเยาวชน 9 คน ทำให้ได้รูปแบบการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการรำโทน-นกพิทิด และการบันทึกภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบวีดิทัศน์สารคดีเชิงวัฒนธรรมและวีดิทัศน์เพื่อการฝึกรำ จากนั้นจากการสังเคราะห์เนื้อหาการสนทนากลุ่ม การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง และการสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม ทำให้ได้ข้อมูลว่าการรำโทน-นกพิทิด ได้รับความนิยมในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 รำโทนจึงแพร่กระจายจากภาคกลางสู่ภาคอื่นๆ รวมถึงภาคใต้ เพื่อเป็นเครื่องบันเทิงใจ และลดความตึงเครียดระหว่างทหารกับประชาชนในยุคข้าวยากหมากแพง ต่อมาการรำโทนเข้าสู่กรุงชิงโดยสื่อบุคคลเข้าไปรับมาจากในเมืองนครศรีธรรมราช แล้วนำไปปรับแต่งเนื้อร้องท่ารำใช้กันทั่วไปในตำบลกรุงชิง ซึ่งจะมีลักษณะเพลงสั้นๆ หลายสิบเพลง และท่ารำที่สอดคล้อง โดยมีเพลงหนึ่ง คือ “รำนกพิทิด” ที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ คือ การเลียนแบบการเกี้ยวพาราสีของนกพิทิด (นกตระกูลนกฮูก) ตัวผู้และตัวเมีย เน้นการรำที่สนุกสนาน ตลกขบขัน จนได้ชื่อว่า “รำโทน-นกพิทิด” และภายหลังการชมวีดิทัศน์ กลุ่มตัวอย่างผู้ชมจำนวน 71 คน เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ลักษณะการรำและร้องมากขึ้น ตลอดจนรู้สึกชอบสื่อวีดิทัศน์และสื่อออนไลน์ซึ่งมีความเหมาะสมทางด้านเนื้อหา ภาพ และเสียงในภาพรวม ตลอดจนเห็นว่าสื่อดังกล่าวสามารถสร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมของประชาชนตำบลกรุงชิง ให้ร่วมการอนุรักษ์การละเล่นประเภทนี้ไว้ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่สามารถใช้สื่อดังกล่าวในการฝึกหัดการรำโทน-นกพิทิดเพื่อสืบสานให้อยู่คู่ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราชสืบไป

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
แก้วสนิท เ., & จำเนียร ก. (2018). แนวทางการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมอนุรักษ์การรำโทน - นกพิทิดของเยาวชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้เทคโนโลยีสื่อวีดิทัศน์และสื่อออนไลน์. วารสารศรีปทุมปริทัศน์ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 16(2), 96–106. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/spurhs/article/view/114676
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เกศินี จุฑาวิจิตร. 2542. การสื่อสารเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น. พิมพ์ครั้งที่ 2. นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
คณะกรรมการกลุ่มผลิตชุดวิชาการสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2552.“การสร้างสรรค์รายการโทรทัศน์”.กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยสุโขทัย-ธรรมาธิราช.
ธนิก เลิศชาญฤทธิ์. 2554. การจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).
ปัทมาพร ชเลิศเพ็ชร. 2542. “ซีละ: การละเล่นพื้นเมืองภาคใต้”. สงขลา: โครงการจัดตั้งคณะศิลปกรรมศาสตร์ สถาบัน ราชภัฏสงขลา.
พงษ์ วิเศษสังข์. 2551. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการสื่อสาร. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
รักชนกชรินร์ พูลสุวรรณนธี และอาคีรา ราชเวียง. 2556. “การพัฒนาวีดิทัศน์เพื่อการเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ท่ารำมโนราห์เบื้องต้น”. วารสารการประชุมหาดใหญ่วิชาการครั้งที่ 4.
วงหทัย ตันชีวะวงศ์. 2554. การโฆษณาข้ามวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุทิติ ขัตติยะ. 2552. ศาสตร์การเขียน. กรุงเทพฯ: เปเปอร์ เฮ้าส์.
สุรัตน์ ตรีสุกล. 2550. หลักนิเทศศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ: ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
องค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช. ม.ป.ป.. แผนพัฒนา 3 ปี พ.ศ. 2555-2557. นครศรีธรรมราช: องค์การบริหารส่วนตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช.
อาศรมวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. 2556. “นกพิทิด วัฒนธรรมท้องถิ่นแห่ง กรุงชิง”.
Bloomberg, L., D. 2007. “Culture and community: case study of a video-conferenced graduate distance education program”. Journal of Distance Education Revue de l’education a distance, 22(1): 41-58.