การศึกษาความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ด้านอัคคีภัยเพื่อส่งเสริมความรู้ความตระหนัก และทักษะปฏิบัติด้านอัคคีภัยของนักเรียนระดับประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความคาดหวังและสภาพปัจจุบันของการจัดการเรียนรู้ด้านอัคคีภัย (2) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ด้านอัคคีภัย กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูหรือผู้รับผิดชอบงานด้านอัคคีภัยของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 324 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบประเมินความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ด้านอัคคีภัยของนักเรียนระดับประถมศึกษา มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.97 ซึ่งอยู่ในระดับสูง และค่าความตรงเชิงเนื้อหาเท่ากับ 0.50-1.00 ค่าอำนาจจำแนกเท่ากับ .56-.72 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติเชิงบรรยาย ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้เทคนิค Modified needs index (PNI modified) ในการจัดลำดับความต้องการจำเป็น ผลการวิจัยปรากฏว่า (1) ระดับความคาดหวังของการจัดการเรียนรู้ด้านอัคคีภัยในภาพรวมอยู่ในระดับสูงแต่สภาพปัจจุบันในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (2) ความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้ด้านอัคคีภัยแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ (2.1) ด้านความรู้ คือ วิธีการใช้และตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิง ประเภทและลักษณะของไฟ และวิธีการดับไฟเบื้องต้นและวิธีการจัดเก็บวัสดุหรือเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้ง่าย (2.2) ด้านความตระหนัก คือ มีความสนใจใฝ่ศึกษาหาความรู้เรื่องอัคคีภัยด้วยตนเอง รู้ข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยหากเกิดอัคคีภัยขึ้นภายในโรงเรียน และ สังเกตและรายงานครูว่าวัสดุอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในโรงเรียนมีสภาพความปลอดภัยและพร้อมใช้งานได้หรือไม่ (2.3) ด้านทักษะ คือ สามารถตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ภายในโรงเรียนให้ใช้งานได้อย่างถูกต้องปลอดภัย สามารถตรวจสอบและใช้ถังดับเพลิงชนิดมือถือหรืออุปกรณ์ดับเพลิงชนิดอื่นภายในโรงเรียนได้อย่างถูกต้องปลอดภัย และ สามารถวิเคราะห์แยกแยะวัสดุที่อาจติดไฟภายในโรงเรียน และจัดเก็บให้เหมาะสมได้อย่างถูกต้องปลอดภัย
Article Details
1. กองบรรณาธิการสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตัดสินการตีพิมพ์บทความในวารสาร
2. บทความทุกเรื่องจะได้รับการตรวจสอบทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ข้อความและเนื้อหาในบทความที่ตีพิมพ์เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว มิใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยศรีปทุม
3.การคัดลอกอ้างอิงต้องดำเนินการตามการปฏิบัติในหมู่นักวิชาการโดยทั่วไป และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
คทาวุธ พิมพ์สอาด และ อิทธิพัทธ์ สุวทันพรกูล.2557. การประเมินความต้องการจำเป็นในการจัดการภัยพิบัติของโรงเรียนบ้านบางกะปิ สังกัดกรุงเทพมหานคร.รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการระดับชาติ เรื่องผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนา เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2557 มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี: 45-52.
สถาบันวิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย. 2555. ประวัติความเป็นมาสถาบันวิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2556.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.). 2554. การจัดการภัยพิบัติและการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดภัย: กรณีศึกษาประเทศไทยและประเทศอื่นๆ. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. 2554.รายงานการประเมินผลโครงการฝึกอบรมดับเพลิงและซ้อมอพยพหนีไฟโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2554. กรุงเทพฯ: สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย.
สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย. 2555. มาตรการและการเตรียมพร้อมรับสาธารณภัยในกรุงเทพฯ. กรุงเทพฯ: สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย.
สุวิมล ว่องวาณิช. 2548. การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพ ฯ : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Tsunozaki, E. 2006. Education for Disaster Preparedness in Primary School. Retrieved July 31, 2013.
Chesterton Primary. 2013. Fire Safety Policy. Retrieved July 31, 2013.
United Nation Children’s Fund. 2011. Disaster Risk Reduction and Education. Retrieved July 31, 2013.
United Nations Centre for Regional Development. 2008. Disaster Education in India – A Status Report. Retrieved July 31, 2013.