ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการจัดการของ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการจัดการในอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย และ (2) เพื่อจัดทำแนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยการวิจัยแบบผสานวิธีทั้งการศึกษาเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ การศึกษาเชิงคุณภาพใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญขององค์กรเอกชน จำนวน 10 คน และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 คน รวม 12 คน ในการคัดเลือกผู้ให้ข้อมูลสำคัญซึ่งก็คือผู้บริหารสูงสุดในองค์กรนั้น ๆ ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง และใช้การศึกษาเชิงปริมาณสนับสนุนผลการศึกษาเชิงคุณภาพ โดยกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาเชิงปริมาณ คือ บุคลากรระดับหัวหน้าฝ่าย หัวหน้าแผนกและพนักงานในองค์กรเอกชน จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ คือ แบบสัมภาษณ์ และในการวิจัยเชิงปริมาณ คือ แบบสอบถาม การเก็บข้อมูลดำเนินการในช่วงเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2556 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ.2557 การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้เหตุผลตามหลักตรรกะสร้างข้อสรุปทั่วไป การวิเคราะห์เชิงปริมาณ คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาน ได้แก่ t-test และ One-Way ANOVA ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารจัดการของอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพ ได้แก่ ปัจจัยด้านผู้บริหารหรือผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ที่เป็นเลิศ มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพการนำทีม สามารถสร้างศรัทธาแรงจูงใจให้เกิดการปฏิบัติโดยที่ปัจจัยด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ การจัดการความรู้ในองค์การ การรักษาแสวงหาหุ้นส่วนทางธุรกิจ และการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นปัจจัยเสริมที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ซึ่งปัจจัยส่วนบุุคคล ได้แก่ เพศ ระดับการศึกษา ตำแหน่ง อายุและประสบการณ์ในการทำงาน ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการบริหารจัดการอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิคส์ของไทย