แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สถานการณ์การท่องเที่ยวในอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 2) จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรค และความเป็นไปได้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวของอำเภอแก่งกระจาน และ 3) แนวทางการบริหารจัดการการท่องเที่ยวที่เหมาะสมต่อการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในอำเภอแก่งกระจาน กลุ่มประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) กลุ่มจาก ภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 61 คน 2) กลุ่มผู้ประกอบการด้านธุรกิจบริการท่องเที่ยวจำนวน 49 คน 3) ประชาชนในชุมชนจำนวน 31 คน 4) กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาท่องเที่ยวที่อำเภอแก่งกระจาน จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถามและสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ SWOT และการสังเคราะห์เนื้อหาและนำมาจัดทำแผน (TOWS Matrix) เพื่อเป็นแนวทางการวิเคราะห์ศักยภาพและนำเสนอแนวทางการบริหารจัดการท่องเที่ยว
ผลการวิจัยพบว่า 1) แก่งกระจานเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เป็นที่นิยมของนัก ท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาดี รายได้ไม่สูงมาก ชอบท่องเที่ยวพักแรมในที่พักที่มีราคาไม่สูงมากนัก ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ และภาคกลาง เดินทางมาซ้ำมากกว่าครึ่ง และมาพักผ่อนกับครอบครัว เครือญาติหรือประชุม สัมมนา กิจกรรมที่ชอบคือเดินป่า ดูนก ดูทะเลหมอก และใช้เวลาพักแรมประมาณ 1-3 วัน 2) แก่งกระจานมีจุดแข็งที่เด่นคือ ด้านสภาพแวดล้อมและความสวยงามของธรรมชาติ ระยะทางอยู่ใกล้กรุงเทพฯ ส่วนจุดอ่อนของแก่งกระจานได้แก่การบริการข้อมูลข่าวสารการประชาสัมพันธ์แก่นักท่องเที่ยวและ 3)แนวทางการบริหารจัดการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เหมาะสมคือการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการกำหนดทิศทางพัฒนาจุดขายที่เป็นอัตลักษณ์เพื่อมุ่งสู่แนวทางที่เหมาะสมและเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของอำเภอแก่งกระจานสืบไป
Article Details
1. กองบรรณาธิการสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตัดสินการตีพิมพ์บทความในวารสาร
2. บทความทุกเรื่องจะได้รับการตรวจสอบทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ข้อความและเนื้อหาในบทความที่ตีพิมพ์เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว มิใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยศรีปทุม
3.การคัดลอกอ้างอิงต้องดำเนินการตามการปฏิบัติในหมู่นักวิชาการโดยทั่วไป และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ.(2553) การเปิดเสรีทางการค้าภายใต้ AFTA กับการปรับตัวสู่AEC สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคม 25553.
คณะศึกษา การศึกษาไทยในยุคโลกาภิวัฒน์.(2553) การศึกษากับการพัฒนาประเทศ. กรุงเทพฯ :โรงพิมพ์ตะวันออก.
รำไพพรรณ แก้วสุริยะ. (2549).เอกสารประกอบการบรรยายเรื่องการท่องเที่ยวสู่ศตวรรษที่ 21. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
บุญเลิศ จิตตั้งวัฒนา.(2548).อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์.
สกลวรรณ ผาเรือง.(2545). องค์ประกอบที่ส่งเสริมพฤติกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของนิสิต นักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต คณะนิเทศศาตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. (2546). โครงการศีกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศ. ในรายงานการวิจัย. กรุงเทพฯ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
สุนิสา พักตร์เพียงจันทร์.(2549). การศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนนำระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการดำเนินธุรกิจโรงแรม: กรณีศึกษา โรงแรมเชียงใหม่ออคิด. การค้นคว้าแบบอิสระ ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Cooper,C.; Shepherd, R.;Westland, J.(1996). Educating the educators in tourism: annual Of Tourism and hospitality education. Oxford:Heinemann Professional Publishing.
Mill, R.C and A.M. Morrison. (1985). The Tourism System: An Introductory Text. Eaglewood Cliffs: Prentice-Hall,Inc.
Porter, M.E. (2000). The Competitive Advantage of Nation. Hong Kong: The Macmillan Press.