การศึกษาพฤติกรรมการบำเพ็ญประโยชน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี: การวิจัยแบบผสม
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการบำเพ็ญประโยชน์ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยออกแบบการวิจัยแบบผสม กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงปริมาณเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 730 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มห้องอย่างง่าย (Simple Random Sampling) การวิจัยเชิงคุณภาพ ได้กลุ่มตัวอย่างมาจากการเลือกตามโอกาส/ตามสะดวก (Convenience sampling) และคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างที่ยินดีให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์จำนวน 10 คน แบ่งเป็น เพศชาย 3 คน เพศหญิง 7 คน ช่วงอายุ 17-19 ปี อายุเฉลี่ย 18 ปี ผลการวิจัยพบว่า เพศหญิงมีคะแนนมากกว่าเพศชายในทุกด้านของพฤติกรรมการบำเพ็ญประโยชน์ โดยทั้งเพศหญิงและเพศชายจะมีคะแนนด้านการไม่เอาเปรียบผู้อื่นสูงที่สุด รองลงมาคือ ด้านการใช้ทรัพย์สินส่วนรวมอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ และด้านการปฏิบัติกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ส่วนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีค่าคะแนนต่ำที่สุด ด้านกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม มีทั้งการบำเพ็ญประโยชน์กับทางมหาวิทยาลัย/สถานศึกษา การทำกิจกรรมกับครอบครัว สำหรับผลของการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมที่มีต่อตัวนักศึกษาเองทั้งด้านบวกและลบ ด้านบวก เช่น การได้รับความไว้วางใจ คำชมเชย ยกย่องนับถือจากคนอื่น การเกิดความสุขทางจิตใจและผู้อื่นได้รับความสุข การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้รับประสบการณ์ต่างๆ ได้เรียนรู้ทักษะและวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ส่วนด้านลบ ได้แก่ ความเหน็ดเหนื่อย ต้องเสียสละเวลา เสียสละทรัพย์ ทำงานหนัก ใช้เงินส่วนตัวในการทำงาน เกิดความขัดแย้งกันกับเพื่อนๆ ต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจในการทำงาน ไม่มีใครเห็นค่า ไม่ได้ผลตอบแทนกลับมา โดยพฤติกรรมการบำเพ็ญประโยชน์เป็นพฤติกรรมที่ควรปลูกฝังให้เกิดขึ้นในนักศึกษา ทั้งจากการจัดเป็นกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ ขึ้นมา และที่สำคัญได้จากการสอดแทรกอยู่ในการดำเนินชีวิตประจำวัน
Article Details
1. กองบรรณาธิการสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาและตัดสินการตีพิมพ์บทความในวารสาร
2. บทความทุกเรื่องจะได้รับการตรวจสอบทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ แต่ข้อความและเนื้อหาในบทความที่ตีพิมพ์เป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว มิใช่ความคิดเห็นและความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยศรีปทุม
3.การคัดลอกอ้างอิงต้องดำเนินการตามการปฏิบัติในหมู่นักวิชาการโดยทั่วไป และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ. (2544). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544. กรุงเทพฯ. พิมพ์ครั้งที่ 1: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กรมวิชาการ. (2545). การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน. กรุงเทพฯ. พิมพ์ครั้งที่ 1: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ฉบับปรับปรุง) พุทธศักราช 2551. สาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.).
ธนภัทร จันทร์สว่าง. (2552). การศึกษาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านการปฏิบัติตนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมของนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ธันญภรณ์ ทารีสาร. (2548). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทำประโยชน์ต่อส่วนรวม ของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาการแนะแนว สาขาวิชาศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยสุโขทัย ธรรมมาธิราช.
ธิดา เลิศพรประสพโชค. (2547). คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนวัดดอนเมือง (ทหารอากาศอุทิศ) สังกัดกรุงเทพมหานคร. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
บรรจง ชูสกุลชาติ. (2530-2533). “การพัฒนาวินัย คุณธรรม และจริยธรรม” ในบทความทางวิชาการ กรุงเทพมหานคร โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
บรรทม มณีโชติ. (2530). รูปแบบของข้อคำถามวัดลักษณะนิสัยด้านความเสียสละชนิดข้อความและชนิดสถานการณ์ ที่มีต่อคุณภาพของแบบทดสอบ. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ประเวศ วะสี. (2540). “วัฒนธรรมมรรค 8 เพื่ออนาคตของมนุษยชาติ” วัฒนธรรมสัมพันธ์สาร. 45(7) : 45.
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุคโต). (2545). ธรรมนูญ : พุทธจริยธรรมเพื่อชีวิตที่ดีงาม. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ : มูลนิธิพุทธธรรม.
มิเชล โอเบรน. (2534). โลกสวยด้วยมือเรา. บริษัท ไทยจำกัด พิมพ์รวมเล่ม. กรุงเทพ.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2549 – 2553). มาตรฐานการศึกษาเพื่อการประเมินภายนอก : ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน รอบสอง.
สุเทพ จิตชื่น. (2550). สื่อการเรียนรู้ คุณธรรมนำความรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์วัฒนาพานิช.
Sharp, D.M. (1992). “Moral Judgment Maturity and Life Experience of Early Adolescents.” Dissertation Abstracts International. 52 (3) : 3843– A.
Zimmerman, B.D. (1992, June). ”Effects of Sport Participational and Gender on Moral Judgement in High School Students.” Dissertation Abstracts International. 12 (4) : 4265– A.