การปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดชั่วคราวเพื่อบำบัดฟื้นฟู
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาสิทธิของนักโทษเด็ดขาดในการปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดชั่วคราวเพื่อบำบัดฟื้นฟู และเพื่อหามาตรการทางกฎหมายในการปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดชั่วคราวเพื่อบำบัดฟื้นฟูในประเทศไทย โดยการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาวิจัยเอกสาร เปรียบเทียบกับรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และราชอาณาจักรนิวซีแลนด์
จากการศึกษาพบว่าการให้นักโทษเด็ดขาดออกไปจากเรือนจำชั่วคราวเพื่อบำบัดฟื้นฟูเป็นสิทธิอย่างหนึ่งที่นักโทษเด็ดขาดควรจะได้รับ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ของนักโทษเด็ดขาดกับคนในสังคมและครอบครัว เพื่อให้นักโทษเด็ดขาดสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ ภายหลังเมื่อพ้นโทษ จะได้ไม่กลับมากระทำความผิดซ้ำ โดยเฉพาะสิทธิในการทำงานในสถานประกอบการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งอาจเป็นกิจการของครอบครัว หรือออกไปทำงานอิสระ และสิทธิในการที่จะไปออกไปเพื่อกิจธุระสำคัญหรือกิจการในครอบครัว หรือไปร่วมกิจกรรมทางสังคมบางอย่าง เช่น การไปเยี่ยมภรรยาที่คลอดบุตร การไปเยี่ยมญาติที่ป่วยหนัก การไปร่วมกิจการวันสำคัญทางศาสนา การไปร่วมกิจการบำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น
งานวิจัยมีข้อเสนอแนะให้ภาครัฐมีมาตรการหรือนโยบายที่สนับสนุนในการให้นักโทษเด็ดขาดออกไปจากเรือนจำเพื่อบำบัดฟื้นฟู โดยเฉพาะในชุมชนที่นักโทษเด็ดขาดจะอาศัยภายหลังออกจากเรือนจำ และแก่ไขพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิจัยราชภัฏพระนครเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
Criminal News Team. (2023). Eyes on the establishment of corrections industry in 4 regions to find employment to 20,000 prisoners after sentence is served. Retrieved from https://mgronline.com/crime/detail/9660000009051 [2023, 2 Aug.]
Department of Corrections. (2023). Report on the statistics of the convicted. Retrieved from http://www.correct.go.th/stathomepage [2023, 2 Aug.]
Jitsawang, N. (1997). Principles of penology. Nonthaburi : Department of Corrections.
Jitsawang, N. (2000). Purpose of punishment. Retrieved from https://www.gotoknow.org/ posts/454719 22/8/66 [2023, 22 Aug.]
On-chom, L. (2016). Determination of sentences to be proportionate to the offenders in drug-related offences. (Master Thesis). Dhurakij Pundit University, Bangkok.
Krabkaikaew, P. (2015). legal issues concerning the protection of privacy rights of inmates in prisons. Retrieved from https://grad.dpu.ac.th/upload/content/files. [2023, 22 Aug.]
Seema, S. (2020). Prison overcrowding. Bangkok: Technical Affairs, Secretariat Office of the House of Representatives.
Serm-sindham, P. (2021). “Criteria on the determination of criminal punishment” under the data-supported project for the members of parliament’s work. Bangkok: King Prajadhipok’s Institute.
Suthiyothin, N. (2011). Documents on theory of punishment, guidelines, advanced criminal law and criminology subject unit 6. Nonthaburi: Sukhothai Thammathirat Open University.
The Department of Corrections works. (2018). Release to work - a guide for employers. Retrieved from https://www.corrections.govt.nz/resources/information_brochures/rele ase to_work__a_guide_for_employers [2023, 29 Sep.]
The Department of Corrections works. (2023). Working while in prison. Retrieved from https://www.corrections.govt.nz/resources/information_brochures/release_to_work__a_guide_for_employers [2023, 29 Sep.]
Worapat, T. (2015). Legal Principles on the Enforcement of Imprisonment Sentences (3rd Edition). Bangkok: Winyuchon.
