ผู้นำการเปลี่ยนแปลงพัฒนราสมรรถนะครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมาโดยใช้รูปแบบการบริหาร model “MANA’s Model”เพื่อยกระดับผู้เรียน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสมรรถนะการปฏิบัติงานในปัจจุบันของครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมา 2เพื่อศึกษาผู้นำการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมา โดยใช้รูปแบบการบริหาร “MANA’ S Model” เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมา โดยใช้รูปแบบการบริหาร “MANA’ S Model” เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยการวิจัยครั้งนี้เป็นการการวิจัยเชิงพรรณนา (Description Research) สถิติที่ใช้ คือ มัชฌิมเลขคณิต (Arithmetic Mean : µ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : σ) โดยนำค่ามัชฌิมเลขคณิตที่ได้เทียบกับเกณฑ์ผลการวิจัย พบว่า : 1. เพื่อศึกษาสมรรถนะการปฏิบัติงานในปัจจุบันของครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมา มีผลการวิเคราะห์ข้อมูล โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมามีสมรรถนะการปฏิบัติงานที่เหมาะสมตามสมรรถนะหลักและสมรรถนะประจำสายงาน สมรรถนะหลัก ด้านการพัฒนาคนเอง ด้านการทำงานเป็นทีมด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพครู ประกอบด้วย สามารถทำงานร่วมกับเพื่อนครูเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของโรงเรียนในฐานะชุมชนวิชาชีพ สมรรถนะประจำสายงานด้านการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย การสร้างนวัตกรรมเพื่อนำมาใช้ในการจัด การเรียนรู้ จัดกระบวนการเรียนรู้ให้มีความยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์และความมุ่งมั่นตั้งใจในการถ่ายทอดความรู้ 2. เพื่อศึกษาผู้นำการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมา โดยใช้รูปแบบการบริหาร “MANA ’ S Model” เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน มีผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีมาก 3. เพื่อหาแนวทางการพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสมรรถนะครูโรงเรียนเมืองนครราชสีมา โดยใช้รูปแบบการบริหาร“MANA ’ S Model”เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน มีผลการวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีมาก
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ก่อนเท่านั้น
References
กระทรวงศึกษาธิการ, คู่มือการบริหารโรงเรียนในโครงการพัฒนาการบริหารรูปแบบนิติบุคคล, กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด, 2546.
เทื้อน ทองแก้ว, สมรรถนะ (Competency) : หลักการและแนวทางปฏิบัติ. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยสวนดุสิต, 2560.
นพพงษ์ บุญจิตราดุล. หลักการบริหารการศึกษา. (กรุงเทพฯ : บพิธการพิมพ์, 2559.
ศรันย์ กษิษฐานุพงษ์. การศึกษาการปฏิบัติงานวิชาการที่จะปฏิบัติจริงและที่ควรปฏิบัติของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ จังหวัดพังงา. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒสงขลา, 2548.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สำนักนายกรัฐมนตรี, 2560.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน). (2555). คู่มือการประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 3 (พ.ศ. 2554 - 2558), (พิมพ์ครั้งที่ 4). (กรุงเทพฯ : ออฟเซ็ทพลัส, 2555.
สำนักบริหารการศึกษา, คู่แนวทางปฏิบัติการจัดการศึกษา, (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์อาสารักษาดินแดน 2550.
อรพร อนุกรสวัสดิ์, ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนขนาดใหญ่ สังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2558.
ฮิวจ์ เดลานี. (2562). การศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 การพัฒนาทักษะคือหัวใจสำคัญของ การศึกษา, สืบค้น จาก https://www.unicef.org/thailand/th/stories/ เข้าถึงเมื่อ 2 มีนาคม 2563.
Stephen P. Robbin. (1997). Administrative Process. New Delhi : Prentice Hall of India.