การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยระยะท้าย ของศูนย์พุทธวิธีดูแลผู้ป่วย ระยะท้าย วัดป่าโนนสะอาด จังหวัดนครราชสีมา เชิงพุทธบูรณาการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายของศูนย์พุทธวิธีดูแลผู้ป่วยระยะท้าย วัดป่าโนนสะอาด จังหวัดนครราชสีมา 2) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยระยะท้าย ของศูนย์พุทธวิธีดูแลผู้ป่วยระยะท้าย วัดป่าโนนสะอาด จังหวัดนครราชสีมา และ 3) เพื่อเสนอรูปแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยระยะท้ายของศูนย์พุทธวิธีดูแลผู้ป่วยระยะท้าย วัดป่าโนนสะอาด จังหวัดนครราชสีมา เชิงพุทธบูรณาการ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ การวิจัยเอกสาร และการวิจัยภาคสนาม โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกเชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลหลักจำนวน 20 รูป/คน และการเข้าร่วมเสวนา วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา และนำเสนอผลการวิจัยในรูปแบบพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่า แนวคิดการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายของศูนย์ฯ ใช้หลัก “พุทธธรรมนำโลก” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาตนเองผ่านการปฏิบัติธรรม 3 เวลา และปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามหลักสติปัฏฐาน 4 ในการพัฒนาให้มีสติ 3 ระดับ เป็นพื้นฐานให้ผู้ป่วยเกิดความเข้าใจในความเป็นจริงของชีวิตตามกฎไตรลักษณ์ ภายใต้แนวทาง “กายป่วย ใจไม่ป่วย” เน้นการรักษาจิตใจด้วยธรรมะ ดูแลจิตวิญญาณให้เป็นกุศลโดยไม่ได้เน้นที่การรักษากาย หลักพุทธธรรมที่นำมาใช้ ได้แก่ หลักภาวนา 4 และหลักสติสัมปชัญญะ ส่งเสริมการพัฒนาตนเองทั้ง 4 มิติ ได้แก่ กาย จิต สังคม และปัญญา ทำให้ผู้ป่วยมีความตระหนักรู้ในธรรมชาติของชีวิต ลดความกลัวตาย ความวิตกกังวล และคลายความยึดมั่นถือมั่น รูปแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยระยะท้าย เน้นการมีสติ พัฒนาจิตวิญญาณให้เป็นกุศล อยู่บนพื้นฐานของหลักพุทธธรรม มุ่งสร้างความหมายและคุณค่าในช่วงท้ายของชีวิต และสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยระยะท้ายอย่างแท้จริง ทั้งในด้านจิตวิญญาณและในบริบทสังคมวัฒนธรรม
ผลการวิจัยได้เสนอ LIVE Model เป็นแบบจำลองการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยระยะท้ายเชิงพุทธบูรณาการ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ L (Learn the Truth) ศึกษาความจริงของชีวิตผ่านการปฏิบัติธรรม I (Integrate Holistic Well-being) บูรณาการสุขภาวะทั้ง 4 ด้านด้วยหลักภาวนา 4 V (Value Spiritual Development) พัฒนาจิตวิญญาณผ่านการเป็นอาจารย์ใหญ่ให้ธรรมทาน E (Enlighten to Let Go) เข้าถึงปัญญาและปล่อยวาง สามารถ “มีสติ อยู่ดี วิถีพุทธ” แบบจำลองนี้เป็นนวัตกรรมทางพุทธบูรณาการที่ช่วยให้ผู้ป่วยเผชิญความแก่ เจ็บ และตาย ได้อย่างไม่ทุกข์ อยู่กับปัจจุบันอย่างมีคุณค่า และสามารถจากไปอย่างมีศักดิ์ศรีในวิถีแห่งปัญญาของชาวพุทธ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. สถิติผู้สูงอายุ กันยายน 2567: [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.dop.go.th/th/statistics_page?cat=1&id=2559 [29 พฤศจิกายน 2567].
กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. สถิติสาธารณสุข 2566: [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://spd.moph.go.th/public-health-statistics [4 กุมภาพันธ์ 2567].
พระแสนปราชญ์ ปัญญาคโม. ตายดีวิถีพุทธ. (นครราชสีมา: ศูนย์พุทธวิธีดูแลผู้ป่วยระยะท้าย วัดป่าโนนสะอาด จ.นครราสีมา). 2567.
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550. (กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. 2550). มาตรา 12.
แสวง บุญเฉลิมวิภาส. “การรักษาพยาบาลผู้ป่วยวาระสุดท้าย : ความจริงทางการแพทย์กับขอบเขตทางกฎหมาย”. วารสารกฎหมายสุขภาพและสาธารณสุข. ปีที่ 1 ฉบับที่ 3 (กันยายน-ธันวาคม 2558).
World Health Organization. Palliative Care. [Online]. Source: https://www.who.int/ news-room/fact-sheets/detail/palliative-care [February 4. 2024].