การจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม เพื่อพัฒนามโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และความคงทนในการเรียนรู้ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 2) ศึกษาพัฒนาการด้านมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน3) เปรียบเทียบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม หลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 4) ศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ด้านมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดพลอยกระจ่างศรี (บุญยังราษฎร์นาวีอุปถัมภ์) จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม จำนวน 5 แผน 2) แบบวัดมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นแบบวัดชนิดเลือกตอบ 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นตัวเลือกที่เป็นคำตอบและตัวลวง 4 ตัวเลือก และส่วนที่สองเป็นตัวเลือกที่เป็นเหตุผล 4 ตัวเลือก รวมทั้งหมด 25 ข้อ และ 3) แบบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 5 สถานการณ์ แต่ละสถานการณ์ประกอบด้วยคำถาม 6 ทักษะขั้นบูรณาการ วิเคราะห์ข้อมูลสถิติ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที แบบกลุ่มตัวอย่างที่สัมพันธ์กัน และแบบหนึ่งกลุ่มตัวอย่าง และคะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์
ผลการวิจัย พบว่า 1) มโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
2) คะแนนพัฒนาการด้านมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน เมื่อได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม อยู่ในระดับสูง 3) ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ดเกม หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 4) นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับบอร์ด มีความคงทนในการเรียนรู้ เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน โดยมีคะแนนมโนทัศน์ทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนและหลังเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์ ไม่แตกต่างกัน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ. (2542). การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ: การศาสนา.
ทิฎิ์ภัทรา สุดแก้ว. การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบสร้างองค์ความรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
นักศึกษา”. วารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์. ปีที่ 7 ฉบับที่ 3 (กันยายน–ธันวาคม 2564): 40–55.
ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ:
วิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารการวัดผลการศึกษา. 36(99). 28-40.
วิสุทธิ์ ใบไม้. (2559). การศึกษาและการวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2560). คู่มือการใช้หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษาตอนปลาย. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2566). รายงานผลการดำเนินงานประจำปี พ.ศ. 2566. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. สุวีริยาสาส์น.
Calik, M., Ayas, A., & Coll, R. K., Investigating the effectiveness of teaching methods based on a
four-step constructivist strategy. Journal of Science Education and Technology. 19(1), pp. 32-48.
Islakhiyah, K., Sutopo, S., & Yulianti, L. Scientific Explanation of Light through Phenomenon-based
Learning on Junior High School Student. Advances in Social Science Education and Humanities Research. 218.173-185.