รูปแบบการเสริมการเสริมสร้างความสามัคคีเชิงพุทธบูรณาการในทัศนะ โรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพการเสริมสร้างความสามัคคีในทัศนะของโรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพมหานคร 2) เพื่อศึกษาหลักพุทธธรรมที่ส่งเสริมการเสริมสร้างความสามัคคีในทัศนะของโรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพมหานคร และ 3) เพื่อนำเสนอรูปแบบการเสริมสร้างความสามัคคีเชิงพุทธบูรณาการในทัศนะของโรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยค้นคว้าข้อมูลเอกสารและสัมภาษณ์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 17 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาเสนอข้อมูลเชิงพรรณนาวิเคราะห์
ผลการวิจัย พบว่า การเสริมสร้างความสามัคคีในทัศนะของโรงเรียนโยธินบูรณะ มีการวางแผนการจัดกิจกรรมของนักเรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ มีการนำเข้าสู่กิจกรรม กำหนด และวิธีขั้นตอนการมีส่วนร่วมทำกิจกรรมของนักเรียนนั้น โดยใช้กระบวนการแบบ Active learning สื่อที่ใช้จูงใจให้นักเรียนต้องการเรียนรู้เพื่อทำกิจกรรม มีการวัดผลประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ และสรุปผลการร่วมทำกิจกรรมของนักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนในการเสริมสร้างความสามัคคีที่ดีขึ้น สำหรับหลักพุทธธรรมที่ใช้บูรณาการในการจัดกิจกรรมของนักเรียน เพื่อปลูกฝังคุณธรรมการเสริมสร้างความสามัคคี คือ หลักสาราณียธรรม 6 รูปแบบของการเสริมสร้างความสามัคคี คือ การจัดกิจกรรมของโรงเรียน ได้แก่ การเข้าค่ายคุณธรรมพุทธบุตร เข้าค่ายลูกเสือ กิจกรรมกีฬาสี และจิตอาสา เป็นต้น องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยนี้ คือ โมเดล PVS สร้างคนดีสู่สังคม ประกอบด้วย 1) P= Physical unity คือ การสามัคคีทางกาย 2) V= Verbal unity คือ การสามัคคีทางวาจา 3) S= Spiritual unity คือ การสามัคคีทางจิตใจ โดยการนำหลักพุทธธรรมเข้ามาเสริมสร้างความสามัคคีได้อย่างเป็นรูปธรรม สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัย ออกมาในรูปแบบ PVS Model
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักอักษรจากวารสาร มจร บาฬีศึกษาพุทธโฆสปริทรรศน์ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กรมการศาสนา. การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา. 2541.
จันทร แสงสุวรรณวาว. “โมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุทางพุทธจิตวิทยาการสร้างความ
สามัคคี เพื่อทีมงานที่ประสบความสำเร็จ”. ดุษฎีนิพนธ์ พุทธศาสตร์มหาบัณฑิต (พุทธจิตวิทยา). บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. 2561.
พระธรรมโกศาจารย์ ศ. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). พุทธวิธีการบริหาร. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2549.
พระมหากฤษดา สิริวฑฺฒโน . “การบริหารจัดการชุมชนสร้างสรรค์ตามหลักสาราณียธรรม 6”. วารสารสังคมศาสตร์บูรณการ ปีที่ 2 ฉบับที่ 5 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2565).
พระมหานำเกียรติ วิสุทฺโธ (ทองทวี). “การบริหารจัดการชุมชนสร้างสรรค์ตามหลักสาราณียธรรม 6”.วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น. ปีที่ 8 ฉบับที่ 3 (กรกฏาคม-กันยายน 2564).
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2539.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ 2500. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม. 2506.
วันชนะ กลั่นสุวรรณ. การสังเคราะห์องค์ความรู้ เกี่ยวกับการสร้างความสามัคคีปรองดองเพื่อการ
ปฏิรูปประเทศสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน(รายงานการวิจัย). (กรุงเทพฯ:วิทยาลัยกองทัพบก. 2560.
สมโภชน์ สุวรรณรัตน์. “การสร้างความสามัคคีในหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบด้วยหลักพุทธธรรม”. ศาสนาศาสตรดุษฎีบัณฑิต. (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหามกุฎ วิทยาลัย, 2560.