The Conservation and Inheritance guidelines of Tee-Klee-Fire Culture in Kut Tum Sub-district, Muang District, Chaiyaphum Province

Main Article Content

สุริยะ หาญพิชัย

Abstract

This research aimed to study the history of Tee-Klee-Fire culture and to fi nd conversation and inheritance guidelines for Tee-Klee-Fire culture in Kut Tum sub-district, Muang district, Chaiyaphum province. This research collected data by content analysis in anthropology fi led work research and community survey. Forty informants were interviewed and fi fteen informants were used focus groups discussion. The study found that Tee-Klee-Fire culture of Nong Kuang village in Kut Tum sub-district, Muang district, Chaiyaphum province was related to River and farming. The characteristic of Tee-Klee-Fire was from the popular changing activity in Eastern. A Klee ball in the fi re was an identity of Tee-Klee-Fire. The rules of Tee-Klee-Fire game are the same of hockey game. The players are divided into two teams using standard football fi led. The equipment and materials in this game were a Klee-ball that made of cotton wood and a mallet that made from bamboo. The conversation and inheritance guidelines for Tee-Klee-Fire culture emerge from public cooperation or collaboration among householders, temples and schools in the following aspects:1) To conserve the culture by keeping Tee-Klee-Fire culture in Kut Tum at Nong Kleung community hall. 2) To inherit the culture by constructing Tee-Klee-Fire culture of Kut Tum sub-district in Buddhist lent day of every year 3) To promote the learning of Tee-Klee-Fire culture in schools in Kut Tum sub-district by village scholars teaching of the history of Tee-Klee-Fire culture as well as how to play the game. 4) To confederate Tee-Klee-Fire culture for operating activities and to conserve the Tee-Klee-Fire culture continually.

Article Details

How to Cite
หาญพิชัย ส. (2018). The Conservation and Inheritance guidelines of Tee-Klee-Fire Culture in Kut Tum Sub-district, Muang District, Chaiyaphum Province. RMUTI Journal Humanities and Social Sciences, 5(2), 124–139. Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/RMUTI_SS/article/view/189552
Section
Research Articles

References

กาญจนา แก้วเทพ. (2550). การบริหารจัดการวัฒนธรรมแบบมีส่วนร่วม. การพัฒนานักวิจัยท้องถิ่นด้านการบริหารจัดการวัฒนธรรมแบบมีส่วนร่วม. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

ญาณิศา บุญจิตร์ และสุชาติ มีสมบัติ. (2554). การอนุรักษ์และสืบสานประเพณีแห่พระแข่งเรือยาวขึ้นโขนชิงธง อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพรเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน. กรุงเทพฯ: กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม

ณัฐพจน์ โพธิ์เจริญ, สุพรรณี เหลือบุญชู และปัทมาวดี ชาญสุวรรณ. (2559). การสืบทอดและอนุรักษ์ดนตรีของกลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี. ปีที่ 7, ฉบับที่ 1, หน้า 9-23

ธนพชร นุตสาระ. (2557). แนวทางการอนุรักษ์วัฒนธรรมดนตรีของชาวกะเหรี่ยงตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิ วัฒนาจังหวัดเชียงใหม่. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ศิราณี จุโฑปะมา และศุภมาศ ศรีวงศ์พุก. (2550). ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยที่มีต่อประเพณีท้องถิ่นในเขตอีสานใต้. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

สิทธิโชค วิบูลย์, สุเทพ บุญซ้อน และปิยะวรรณ เลิศพานิช. (2554). การศึกษาการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมชาวมอญเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชน กรณีศึกษา: ชุมชนศาลาแดงเหนือจังหวัดปทุมธานี. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์. ปีที่ 5, ฉบับที่ 1, หน้า 143-154

สมสุข หินวิมาน. (2550). การบริหารจัดการวัฒนธรรมเชิงรุกและการมีส่วนร่วมการพัฒนานักวิจัยท้องถิ่นด้านการบริหารจัดการวัฒนธรรมแบบมีส่วนร่วม. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครพนม. (2551). การมีส่วนร่วมของเครือข่ายวัฒนธรรมและชุมชนในการอนุรักษ์พิธีกรรมเลี้ยงผีปู่ตาชาวกะเลิง ตำบลคำเตย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

อารีรัตน์ พุฒิรุ่งโรจน์. (2557). แนวทางการส่งเสริมการอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาว่าวไทย. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. ปีที่ 25, ฉบับที่ 2, หน้า 37-46