การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดวิเคราะห์ และเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist) และกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA)

Main Article Content

วัชราภรณ์ อุปทุม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) หาประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ และแบบ CIPPA ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแบบ CIPPA กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการคิดวิเคราะห์ และเจตคติต่อการเรียนคณิตศาสตร์กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และการเรียนรู้แบบ CIPPA หลังเรียนและก่อนเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนโรงเรียนเชียงยืนวิทยา ขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จนวน 50 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Perposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแผนการจัดการเรียนรู้แบบ CIPPA เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งเป็นบบทดสอบอิงเกณฑ์ ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.28-0.71 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.32-1.00 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.85 แบบวัดเจตคติของนักเรียนต่อการเรียนคณิตศาสตร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 อันดับ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.38-0.74 ค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.26 -0.89 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 แบบทดสอบวัดการคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย จำนวน 30 ขอ


สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมุติฐาน ได้แก่ t-test


ผลการวิจัยพบว่า


  1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์มีประสิทธิภาพ 78.28/75.40 และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปามีประสิทธิภาพ 78.24/75.20 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งสองวิธีมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 75/75

  2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์และแบบซิปปามีค่าเท่ากับ 0.7166 และ 0.6630 หรือคิดเป็นร้อยละ 71.66 และ 66.30 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนที่เรียนรู้จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งสองวิธีมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น

  3. นักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ และนักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบซิปปามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดวิเคราะห์ และเจตคติต่อการเรียนคณิตศาสตร์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

  4. นักเรียนที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดวิเคราะห์และเจตคติต่อการเรียนคณิตศาสตร์สูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ CIPPA อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อุปทุม ว. (2015). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดวิเคราะห์ และเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist) และกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา (CIPPA). วารสาร มทร.อีสาน ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 2(2), 24–36. สืบค้น จาก https://so05.tci-thaijo.org/index.php/RMUTI_SS/article/view/195434
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมวิชาการ. (2545). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์

กาญจนา คำจีนะ. (2551). ผลการจัดการเรียนรู้แบบซิปปา เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ สำหรับนักเรียนข่วงชั้นที่ 4 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เขียงราย. การศึกษาค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ญฤดี แซ่ล้อ. (2543). ศึกษาการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนซิปปาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เละเจตคติทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร์ มหาบัณฑิต กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ทิศนา แขมมณี. (2542). การจัดการเรียนการสอนโดยยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง: โมเดลขิปปา (CIPPA Model). วิชาการ. 2(5) : 2-29

นิตยา โสตทิพย์. (2551). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนขั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนเเบบชิปปากับเเบบปกติ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. นครศรีธรรมราช : มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช

บุษบา แสงลี. (2552). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา กลุ่มสาระกาวเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องน้ำเพื่อชีวิต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. ศึกษาคันคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ประสาท เนื่องเฉลิม. (2550). การเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบสืบเสาะ 7 ขั้น. มหาสารคาม : วารสารวิชาการคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

พิกุล ตระกูลสม. (2552). การวิจัยปฏิบัติการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง โลกและการเปลี่ยนแปลงโดยรูปแบบขิปปา (CIPPA Model) ขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนที โอ เอ วิทยา (เทศบาล 1 วัดคำสายทอง) อำเภอเมือง จังหวัดมุกคาพาร. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต อุบลราชธานี : มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ภาวิณี คำชารี. (2540). การเปรียบเทียบความสามารถการแก้โจทย์ปัญหาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนทศนิยมและการคิดวิเคราะห์ ระหว่างวิธีเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD สอดเเทรกเมตาดอกนิชั่น วิธีเรียนตามเเนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ วิธีเรียนตามคู่มือ สสวท. ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2549). นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้. มหาสารคาม : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2551). นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

วิไลพร ภูดอกไม้. (2552). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบชิปปา (CIPPA) ประกอบชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ขั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านดินจี. การศึกษาค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. 2548). คู่มือวัดผลประเมินผลคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว

สิรินุช ธรรมนิยม. (2553). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์เเบบชิปปา (CIPPA Model) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วนและทศนิยม ขั้นประถมศึกษาปีที่ 4. ศึกษาค้นคว้าอิสระการศึกษามหาบัณฑิต มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

สุพินญา คำขจร. (2550). การเปรียบเทียบผลการเรียนด้วย CIPPA กับ CIPPA ที่จัดกลุ่มแบบ TAI ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถการคิดวิเคราะห์และความพึงพอใจของนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

สุริยันต์ สายหงส์. (2550). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เละเจตคติต่อการเรียนคณิตศาสตร์ เรื่อง ตัวประกอบของจนวนนับของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เเบบ4 MAT และแบบ CIPPA. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

อรุณี ทองปัน. (2550). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปเเบบขิปปา (CIPPA Model). ศึกษาค้นคว้าอิสระ การศึกษามหาบัณฑิต อุบลราชธานี : มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี