การออกแบบตัวละครสไตล์มินิมอลลิสม์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพจิตรกรรมไทยฝาผนังแนวประเพณี เรื่องทศชาติชาดก วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร
คำสำคัญ:
จิตรกรรมไทยแนวประเพณี, ทศชาติชาดก, วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร, การออกแบบตัวละคร, มินิมอลลิสม์บทคัดย่อ
บทความการวิจัยและพัฒนาเพื่อศึกษา 1. สัญลักษณ์ที่ปรากฏบนเรือนร่างตัวละครที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพจิตรกรรมไทยฝาผนัง วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร 2. ความสัมพันธ์ระหว่างรหัสภาษาเชิงสัญลักษณ์กับความหมายเชิงสัญลักษณ์ของตัวละคร 3. การออกแบบตัวละครสไตล์มินิมอลลิสม์ ในรูปแบบภาพจิตรกรรมดิจิทัลและตัวละคร 3 มิติ วิธีวิจัยเป็นการวิจัยและการพัฒนา โดยวิเคราะห์ข้อมูลตัวละครที่ปรากฏในภาพจิตรกรรมฝาผนัง จากนั้นจึงนำข้อมูลไปใช้ในการออกแบบและพัฒนาตัวละคร ได้แก่ พระเวสสันดร พระนางมัทรี พระโอรสชาลี พระธิดากัณหา และชูชก โดยดำเนินการ 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1.การสร้างความเข้าใจ 2.การกำหนดโจทย์ 3.แนวคิดการสร้างสรรค์ 4.การสร้างต้นแบบ และ 5.การทดสอบ โดยกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายจำนวน 12 คน และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน ผลการวิจัยพบว่า
1. สัญลักษณ์บนเรือนร่างตัวละครที่ปรากฏในภาพจิตรกรรมไทยแนวประเพณี เรื่องทศชาติชาดก ณ วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) ตัวละครกลุ่มสมมติเทพ มีรูปลักษณะสมมติเทพในแบบแผนเดียวกัน 2) ตัวละครกลุ่มสามัญชน มีรูปลักษณะเป็นแบบตัวกากหรือสามัญชนทั้งสิ้น
2. ความสัมพันธ์ระหว่างรหัสภาษาเชิงสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนเรือนร่างตัวละครกับความหมายเชิงสัญลักษณ์ ได้แก่ 1) สัญลักษณ์เชิงคุณค่าของตัวละคร 2) สัญลักษณ์บนเรือนร่างของตัวละครที่ทำหน้าที่สื่อสารแสดงความหมาย และ 3) สัญลักษณ์ตำแหน่ง ทิศทางของตัวละคร
3. การออกแบบตัวละครสไตล์มินิมอลลิสม์ ในรูปแบบภาพจิตรกรรมดิจิทัล และตัวละคร 3 มิติ โดยใช้แนวคิดการคิดเชิงออกแบบ แนวคิดการออกแบบตัวละคร และแนวคิดมินิมอลลิสม์ หลอมรวมกันในการออกแบบตัวละครสไตล์มินิมอลลิสม์นั้น พบว่าปัจจัยจำเป็น ได้แก่ ตัวละครในงานจิตรกรรมไทยแนวประเพณี จะถูกกำกับด้วยระเบียบ ไวยากรณ์ กฎเกณฑ์ ข้อกำหนดทางโครงสร้าง และการกำหนดตัวละครในฐานะประเภทมิใช่ความเป็นปัจเจกบุคคล รวมถึงการลดทอนภาษาเชิงสัญลักษณ์จะต้องคงแก่นคิดของตัวละครนั้น การออกแบบตัวละครสไตล์มินิมอลลิสม์สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดในเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา แก้วเทพ. (2542). การวิเคราะห์สื่อ แนวคิด และทฤษฎี. (พิมพ์ครั้งที่ 2) กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
_________________. (2553). แนวพินิจใหม่สื่อสารศึกษา. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
กฤษณ์ ทองเลิศ. (2557). น้ำในฐานะการสื่อสารสัญลักษณ์ภาพในงานจิตรกรรมฝาผนังไทย. วารสารนิเทศศาสตรปริทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต, 17(2), 148-157
จรูญพร ปรปักษ์ประลัย. (2548). Animation says Hi! สวัสดีแอนิมชั่น. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.
ชัยพร พานิชรุทติวงศ์. (2563). การออกแบบตัวละครเพื่องานคอมพิวเตอร์อาร์ต. ปทุมธานี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรังสิต.
ธงชัย ทิพย์ตระกูล. (2554). สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในจิตรกรรมไทยประเพณีจากสมัยอยุธยาตอนปลาย(รวมรัตนโกสินทร์ตอนต้น) ไปสู่ช่วงสมัยรัชกาลที่ 3. Veridian E-Journal SU, 4(2), 97-106
ไปรมา อิศรเสนา ณ อยุธยาและชูจิต ตรีรัตนพันธ์. (2560). Design thinking: learning by doing การคิดเชิงออกแบบ: เรียนรู้ด้วยการลงมือทำ. กรุงเทพฯ: ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC).
พิชัย ตุรงคินานนท์. (2556). จิตรกรรมร่วมสมัย ชุด สีแห่งพุทไธสรรย์. (ปริญญานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต).จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.
เสมอชัย พูลสุวรรณ. (2541). เรือนร่างในงานจิตรกรรมไทยแบบประเพณี. ใน เผยร่าง-พรางกาย.กรุงเทพฯ: คบไฟ.
แสงอรุณ กนกพงศ์ชัย. (2525). ชุดจิตรกรรมฝาผนังในประเทศไทย: วัดสุวรรณาราม. กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์เมืองโบราณ.
สำราญ แสงเดือนฉาย. (2557). การวิเคราะห์การนำเสนอบุคลิกภาพตัวละครในวรรณกรรมเนื่องในพระพุทธศาสนาผ่านงานจิตรกรรมไทยฝาผนัง ในเขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. ใน วารสารนิเทศศาสตรปริทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต, 17 (2), 187-194.
Barthes, R. (1999). Image Music Text. Translated by Stephen Heath. 21st ed. New York: Hill and Wang.