แนวทางการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนโรงเรียนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องจากพระราชดำริ

ผู้แต่ง

  • สุวคนธ์ สุขใจ นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา
  • ดร.พูนชัย ยาวิราช อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
  • ดร.สุวดี อุปปินใจ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

คำสำคัญ:

แนวทางการบริหารจัดการ, การอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน, โรงเรียนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง(พื้นที่ทรงงาน)อันเนื่องจากพระราชดำริ

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันในการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 2) เพื่อศึกษาปัญหาการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 3) เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ประชากรที่ศึกษาได้แก่ ครูผู้สอนระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 ของโรงเรียนในพื้นที่โครงการพัฒนา ดอยตุงฯ จำนวน 24 คน ผู้บริหารสถานศึกษาโรงเรียนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จำนวน 8 คน คณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน จำนวน 8 คน ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 24 คน รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 จำนวน 1 คน นิเทศศึกษา จำนวน 1 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามแบบ 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า 1. สภาพปัจจุบันในการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 โดยรวมมีการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 อยู่ในระดับคุณภาพมาก 2. ปัญหาในการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน ผลการวิจัยพบว่า โดยรวมมีปัญหาในการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 อยู่ในระดับปานกลาง 3. แนวทางการบริหารจัดการเพื่อส่งเสริมการอ่านออกเขียนได้นักเรียน 1) ด้านการวางแผน การวางแผนในการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ต้องดำเนินการ ดังนี้ศึกษาสภาพการปัจจุบันปัญหาจัดการเรียนรู้ภาษาไทยของครูผู้สอน ศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาการบริหารจัดการของผู้บริหาร ศึกษาสภาพทักษะการอ่านออกเขียนได้ของเด็กนักเรียนและจำแนกสภาพปัญหาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียนเป็นรายคน จัดทำสารสนเทศเพื่อใช้ในการวางแผนกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ร่วมกันทั้งโรงเรียน เลือกวิธีการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับศักยภาพการเรียนรู้ของเด็ก กำหนดงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ กำหนดขั้นตอนและปฏิทินในการดำเนินการให้ชัดเจน กำหนดแนวทางการวัดผลประเมินผล จัดทำคู่มือการดำเนินงาน 2) ด้านการดำเนินงาน ต้องมีการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ในด้าน สร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญของการพัฒนาการอ่านออกเขียนได้ของนักเรียน พัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับภาษาไทยให้ครูผู้สอนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง พัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ของครูให้มีประสิทธิภาพ จัดเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ปรับปรุงสภาพห้องเรียนให้เอื้อต่อการเรียนรู้ จัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ที่จาเป็นสำหรับการจัดการเรียนรู้ ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียนที่จะช่วยยกระดับการเรียนรู้ภาษไทยของนักเรียน เช่นห้องสมุด มุมหนังสือ แหล่งเรียนรู้ทางอินเตอร์เน็ท จัดหาและพัฒนาสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับการจัดการเรียนรู้ 3) ด้านการประเมินผล /การกำกับ นิเทศ ติดตาม ในการประเมินผลควรดำเนินการ ดังนี้ ดำเนินการประเมินทักษะการอ่านออก เขียนได้ของนักเรียนก่อนการดำเนินงานเพื่อทราบสภาพปัญหาที่แท้จริงของเด็ก ดำเนินการประเมินผลการดำเนินงานระหว่างการดำเนินงาน เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าและหาปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินงาน ดำเนินการประเมินผลหลังการดำเนินงาน เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงาน และหาจุดบกพร่องที่จะแก้ไขในการดำเนินการครั้งต่อไป และส่วนการนิเทศ กำกับ ติดตาม ควรกำหนดผู้รับผิดชอบในการนิเทศกำกับติดตามให้ชัดเจน กำหนดกลุ่มเป้าหมาย วิธีการและเครื่องมือที่ใช้ในการนิเทศที่เหมาะสม ชัดเจน กำหนดปฏิทินในการนิเทศ กำกับ ติดตามอย่างต่อเนื่อง 4) การสรุปผล / รายงานผล /และการปรับแก้ไข การสรุปผล ควรมีการดำเนินการสรุปและรายงานผลการดำเนินงานทุกกิจกรรม อย่างต่อเนื่อง เช่นสัปดาห์ละครั้ง เดือนละครั้ง และนำผลที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ควรใช้กระบวนการ PLC ( Professional Learning Community ) มาในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพการจัดการเรียนรู้ซึ่งจะช่วยยกระดับการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประวัติผู้แต่ง

สุวคนธ์ สุขใจ, นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการการบริหารการศึกษา

ดร.พูนชัย ยาวิราช, อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

ดร.สุวดี อุปปินใจ, อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

อาจารย์ประจำสาขาวิชาการการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย

เอกสารอ้างอิง

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2559). แนวทางการจัดกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ด้านอ่าน ออกเขียนได้.กรุงเทพฯ.

บัญชา อึ๋งสกุล. (2545). การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ : หลักการ ทักษะและการปฏิบัติ. วารสารวิชาการ.

ยุทธนา มิ่งเมือง. (2549). การบริหารจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองคูคต จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศิลปากร.

วาสนา สีลุน. (2551). ปัญหาและข้อเสนอแนะในการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้ว เขต 2. ครุศาสตร์มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยบูรพา.

วรรณี โสมประยูร. (2544). การสอนภาษาไทยระดับประถมศึกษา. กรุงเทพฯ. ไทยวัฒนาพานิช.

สุวารี วงค์คาจันทร์. (2557). แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการการเรียนรู้ภาษาไทยของเด็กชาวเขาในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในอำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก. ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏกาแพงเพชร.

สมคิด บางโม. (2548). องค์การและการจัดการ. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : วิทยพัฒน์.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-07-11

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย