แนวทางการบริหารงานบุคคลโรงเรียนพื้นที่สูง สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3

บทคัดย่อ

การศึกษาอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันในการบริหารงานบุคคลโรงเรียนพื้นที่สูง (2) เพื่อศึกษาปัญหาที่ส่งผลต่อการบริหารงานบุคคล (3) เพื่อหาแนวทางการบริหารงานบุคคล ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียนพื้นที่สูง และรองผู้อำนวยการโรงเรียนหรือหัวหน้าฝ่ายบริหารงานบุคคลโรงเรียนพื้นที่สูง จำนวน 66 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นแบบสอบถามและแบบบันทึกการสนทนากลุ่ม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหาสำคัญ นำเสนอในรูปแบบความเรียง ผลการศึกษา พบว่า (1) สภาพปัจจุบันในการบริหารงานบุคคล พบว่า ภาพรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ วินัยและการรักษาวินัย ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และรองลงมาคือ การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก การวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตาแหน่ง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และงานออกจากราชการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ตามลำดับ (2) ปัญหาที่ส่งผลต่อการบริหารงานบุคคล พบว่า ภาพรวมค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และรองลงมาคือ การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก การวางแผนอัตรากาลังและกำหนดตาแหน่ง ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก วินัยและการรักษาวินัย ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และงานออกจากราชการ ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ตามลาดับ (3) แนวทางการบริหารงานบุคคล พบว่า 1) ด้านการวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง ควรมีการประชุมวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่งให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน คำนึงถึงคนในพื้นที่เป็นอันดับแรก และจัดทำภาระงาน ศึกษาขอบข่ายงาน ก่อนมีการมอบหมายงานให้แก่ครูหรือบุคลากร 2) การสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง มีการกระจายอำนาจในการสรรหาและบรรจุแต่งตั้งตามกรอบอัตรากำลังที่ต้องการ ผู้บริหารโรงเรียนสามารถบรรจุหรือแต่งตั้งครูได้เองโดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม การบรรจุและแต่งตั้ง รับย้าย และโอน แทนตำแหน่งที่ว่างให้ด้วยความโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย 3) การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ผู้บริหารควรสร้างความตระหนักของความเป็นวิชาชีพครู มาตรฐานวิชาชีพ จรรยาบรรณ วินัย และคุณธรรม แก่ข้าราชการครูและบุคลากรในโรงเรียน มีการเสริมสร้างแรงจูงใจ และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลในหน่วยงาน 4) วินัยและการรักษาวินัย ผู้บริหารวางตนเป็นแบบอย่างที่ดี ในเรื่องจรรยาบรรณ ให้ความรู้เกี่ยวกับวินัยและการรักษาวินัยของครูในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอและควรมีการดำเนินการทางวินัยตามกฎระเบียบข้อบังคับอย่างเสมอภาค และยุติธรรม 5) งานออกจากราชการ ควรมีการดำเนินการด้านการออกจากราชการอย่างเป็นระเบียบ และโรงเรียนอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการได้รับสวัสดิการ แก่บุคคลที่พ้นจากตาแหน่งหน้าที่ โดยเฉพาะกองทุนบำเหน็จบานาญควรมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบดูแลสวัสดิการครูที่เกษียณอายุราชการและให้ครูผู้เกษียณอายุราชการไปแล้วมีโอกาสได้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันเสมอ ๆ