แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารจัดการงานด้านวิชาการ ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท)

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยสถาบัน มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานด้านวิชาการ ของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) โดยมีกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานด้านวิชาการ และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานด้านวิชาการของโรงเรียน ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยทำการเก็บข้อมูลโดยวิธีการสนทนากลุ่มซึ่งมีผู้ให้ข้อมูล คือ ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้รับผิดชอบงานสารสนเทศ ครูกลุ่มงานวิชา การผู้อำนวยการโรงเรียนผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารสถานศึกษา ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานด้านวิชาการ ตามขอบข่ายการบริหารงานด้านวิชาการ 4 ด้าน คือ ด้านการวางแผนเกี่ยวกับงานวิชาการ ภาพรวมสภาพการใช้งานอยู่ในระดับมาก ด้านการจัดดำเนินงานเกี่ยวกับการเรียนการสอน สภาพการใช้งานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ด้านการบริหารเกี่ยวกับการเรียนการสอน สภาพการใช้งานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และด้านการวัดและประเมินผล สภาพการใช้งานโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2. ปัจจัยที่มีผลต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานด้านวิชาการ ตามกรอบการบริหารทรัพยากร 4 ปัจจัย ได้แก่ 1)คนบุคลากรให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารงานวิชาการ ทำให้ครูและบุคลากรมีการพัฒนาตนเองในการใช้เทคโนโลยีเมื่อมีโอกาสอย่างสม่ำเสมอ 2) งบประมาณ โรงเรียนมีการบริหารงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านการบริหารเงินงบประมาณ เกิดประโยชน์แก่ฝ่ายบริหารงานวิชาการและฝ่ายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ 3) วัสดุสิ่งของ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้ทันกับยุคสมัย และการใช้วัสดุสิ่งของเป็นไปตามวัตถุประสงค์และความจำเป็น และ 4) การบริหารจัดการ โรงเรียนมีการกำหนดแผนปฏิบัติการทางานของโรงเรียนที่ชัดเจนทาให้สถานศึกษามีทิศทางการดำเนินงานตามแผนที่กำหนดไว้และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 3. แนวทางในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการงานด้านวิชาการให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยมี 4 ขั้นตอนตามหลักการบริหารวงจรคุณภาพ PDCA ตามขอบข่ายการการบริหารงานวิชาการทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ด้านการวางแผนเกี่ยวกับงานวิชาการ ควรมีการจัดหลักสูตรอบรมพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีในการจัดทำงานวิจัยในชั้นเรียน แล้วจึงให้มีการนาเทคโนโลยีในการจัดทำงานวิจัยในชั้นเรียนโดยมีทีมงานผู้ดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศคอยดูแล จากนั้นให้มีการนิเทศ กำกับและติดตามการดำเนินงานของผู้จัดทำในเชิงสร้างสรรค์ เน้นการให้คำแนะนำในจุดที่บกพร่องหรือปัญหาที่พบ 2) ด้านการจัดดำเนินงานเกี่ยวกับการเรียนการสอนควรมีการวางแผนงานในการเชิญวิทยากรจากภายนอก การติดต่อประสารงานระหว่างวิทยากรจากภายนอกกับทางโรงเรียนจากนั้นจึง ทำการประสานงานระหว่างวิทยากรจากภายนอกเรื่องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดการเรียนการสอน แล้วให้มีการกำหนดให้วิทยากรที่จะเข้ามาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในสถานศึกษาได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกในการจัดการเรียนรู้และมีการประเมินความพึงพอใจในการใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 3) ด้านการบริหารเกี่ยวกับการเรียนการสอน จัดทำหลักสูตรอบรมพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูลของห้องสมุดให้กับครูและบุคลากร แล้วให้มีการเพิ่มจำนวนสื่อสื่อการจัดการเรียนรู้ที่อยู่ในรูปแบบของเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีความพร้อมต่อการใช้งาน จากนั้นจึงให้มีการเก็บสถิติการใช้งานด้านสืบค้นข้อมูลของห้องสมุดโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของครู บุคลากรและนักเรียน 4) ด้านการวัดผลและประเมินผล ควรจัดทำแผนการปฏิบัติงานที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการเสนอความคิดเห็น สารวจความพร้อมของระบบว่ามีความพร้อมต่อการใช้งานมากน้อยเพียงใด แล้วจึงพัฒนาโปรแกรมให้มีความง่ายต่อการใช้งาน ไม่ซับซ้อน และสามารถดึงฐานข้อมูลไปใช้ได้ง่าย ไม่ซ้ำซ้อน จากนั้น ทำการทบทวนหลังปฏิบัติ (AAR: After Action Research) ทบทวนหาสภาพปัญหาหลังจากการปฏิบัติงาน หาจุดแข็งจุดอ่อนของการปฏิบัติงาน เพื่อหาแนวทางในการดำเนินงานต่อไป