โรคที่เกิดจากการรับบริการสาธารณสุขและการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
คำสำคัญ:
ผู้ได้รับความเสียหาย/ การชดเชยค่าเสียหาย/การไกล่เกลี่ยบทคัดย่อ
สถิติการฟ้องเรียกร้องค่าชดเชยทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 2539-2558 มีคดีแพ่งสูงที่สุด 241 คดี จากคดีทั้งหมด 323 คดี สาเหตุฟ้องร้องสูงสุดคือ การรักษาผิดพลาด และการคลอด ความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข เป็นผลมาจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือความผิดพลาดต่างๆ จากบุคลากรทางการแพทย์ที่เกิดขึ้นในการให้บริการรักษาพยาบาลผู้ป่วย สาเหตุใหญ่มีทั้งสาเหตุเชิงบุคคลและสาเหตุเชิงระบบ ประเภทความเสียหายแบ่งเป็นความเสียหายแก่ชีวิต ความเสียหายแก่ร่างกาย และความเสียหายแก่จิตใจ การชดเชยค่าเสียหายมีกระบวนการทางกฎหมายคือประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และกระบวนการเยียวยาความเสียหายโดยฝ่ายบริหาร ซึ่งมี 1) การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายโดยรัฐตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 2) มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้เสียหาย มาตรา 41 แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
การศึกษานี้ใช้กรณีศึกษาของผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการคลอดบุตร ในการเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลศูนย์แห่งหนึ่ง รับส่งต่อผู้ป่วยอายุครรภ์ 8 เดือน ทารกในครรภ์มีอาการหัวใจเต้นช้าผิดปกติจากโรงพยาบาลชุมชน พบว่ามารดาขณะคลอดมีอาการแทรกซ้อนจนต้องถูกตัดมดลูกและบุตรเสียชีวิตต่อมา ปัญหาที่พบในเชิงระบบมีสาเหตุมาจากการประเมินอาการผู้ป่วยไม่ละเอียด การสื่อสารไม่ชัดเจนระหว่างแพทย์และญาติผู้ป่วย โรงพยาบาลศูนย์ที่รับส่งต่อมีคนไข้มากเข้าถึงผู้ป่วยช้า วิธีการไกล่เกลี่ยต้องมีทีมนำการไกล่เกลี่ยที่รวดเร็วร่วมกับทีมแพทย์เจ้าของไข้เข้าชี้แจงเหตุการณ์พร้อมกับอธิบายสาเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น พร้อมกับช่วยเหลือในการขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย รัฐบาลควรสนับสนุนนโยบายสาธารณสุขในการจัดสรรบุคลากรให้เพียงพอ และเน้นการสร้างคุณธรรมจริยธรรม ในส่วนโรงพยาบาล เน้นพัฒนาการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์และผู้ป่วย เพื่อสร้างเข้าใจที่ดีและเพิ่มพูนศักยภาพของโรงพยาบาลชุมชนให้มีความสามารถในการให้บริการเพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาลศูนย์
เอกสารอ้างอิง
ฉัตรสุมน พฤฒิภิญโญ. (2555). กฎหมายสุขภาพและการรักษาพยาบาล. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธิดารัตน์ ขาวเงินยวง. (2558). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข.วิทยานิพนธ์หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต(สาธารณสุขศาสตร์)เอกบริหารกฎหมายทางการแพทย์และสาธารณสุขบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล.
นฤพนธ์ ทรงพระ. (2553). ประสิทธิผลของมาตรการทางกฎหมายในการชดเชยแก่ผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข. วิทยานิพนธ์หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (สาธารณสุขศาสตร์) วิชาเอกบริหารกฎหมายทางการแพทย์และสาธารณสุข บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล.
มนต์ชัย ชนินทรลีลา.(มปป). การแพทย์กับความรับผิดทางแพ่ง (คดีละเมิด). ออนไลน์ www.judiciary.go.th/atyc/bablic_html/c08.htm14 เข้าถึงเมื่อ 8/11/2017
ราชกิจจานุเบกษา. พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง พุทธศักราช 2477. เล่ม 52 หน้า 723 วันที่ 20 มิถุนายน 2478.
วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์.(2533). การประกันภัยจากโรคหมอทำ. วารสารคลินิก 6(9), หน้า 675-680.
ศุภชัย ถนอมทรัพย์.(2552). การฟ้องร้องบุคลากรทางการแพทย์. งานเอกสารวิชาการส่วนบุคคลหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง วิทยาลัยการยุติธรรม สำนักงานศาลยุติธรรม.
สุนันทา จันทร์แก้ว.(มปป.) ค่าสินไหมทดแทนกรณีละเมิดที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางจิตใจ.สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา.ออนไลน์ http://web.krisdika.go.th/data/activity/act225.pdf เข้าถึงเมื่อ 8/11/2017
แสวง บุญเฉลิมวิภาส.(2554). ปัญหาฟ้องร้องทางการแพทย์และแนวทางแก้ไข. จุลนิติ, หน้า 47-58.
Illich, I.; Hose, R. Medical Nemesis the expropriation of health. Elkrimbouziane. p. 1967. Retrieved 2017-02-15.
Kuhl, D. (2003). What Dying People Want: Practical Wisdom For The End Of Life. Public Affairs. p. 55. ISBN 9780786725830. Retrieved 2017-02-15.
Medical-dictionary. "Iatrogenesis definition of iatrogenesis by Medical dictionary". Online www. thefreedictionary.com. Retrieved 2017-02-15.
The National Research and Development Center for Welfare and Health in Finland. The Disability Dimension in Development Action. online http://www.un.org/disabilities/documents/toolaction/FF-DisalibilityDim0103_b1.pdf เข้าถึงเมื่อ 8/11/2017
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
Disclaimer and Copyright Notice
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรงซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใด ๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารกฎหมายและนโยบายสาธารณสุข ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารฯ หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อหรือเพื่อกระทำการใด ๆ จะต้องอ้างอิงเสมอ